ซีเอ็นเอ็น - เครื่องบินต่อต้านยาเสพติดลำหนึ่งของสหรัฐฯ พลัดหลงเข้าไปยังน่านฟ้าเวเนซุเอลา เมื่อคืนวันเสาร์ (17) ทางอเมริกาออกมายอมรับในวันจันทร์ (19) ต่อเหตุการณ์ที่เพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองชาติ
นักบิน “ยอมรับในความผิดพลาดของเขาและติดต่อไปยังศูนย์ควบคุมเวเนซุเอลา เพื่อแจ้งให้ทราบ” ทอม เคซีย์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้แจง
เขาบอกต่อว่า นักบินยอมรับความผิดพลาดในการบินที่เกิดขึ้นและได้แจ้งไปยังหอบังคับการ “เขาได้เลี้ยวกลับสู่น่านฟ้านานาชาติในทันที”
อย่างไรก็ตาม กุสตาโว แรนเกล บริซิโท รัฐมนตรีกลาโหมของเวเนซุเอลา แถลงข่าวตอบโต้ในกรุงการากัส ระบุ เวเนซุเอลา เชื่อว่า กองทัพสหรัฐฯ จงใจล่วงล้ำน่านฟ้าของประเทศ พร้อมระบุว่า จะมีการเรียกตัวทูตสหรัฐฯไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าว
“สิ่งนี้ดูคล้ายเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมันไม่ต้องสืบหรือตำหนิกันอีกแล้ว” แรนเกล บริซิโทกล่าว “มันมีความเป็นไปได้ว่าพวกเขากำลังทดสอบเรา แต่เราควรแสดงท่าทีที่ชัดเจนในวันนี้ว่าเรามีความพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขาและปกป้องทุกน่านฟ้าของเรา”
ขณะที่ยอมรับว่า นักบินสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศของสนามบินไมเกเตียว่า เขาไม่ทราบถึงตำแหน่งของตนเอง แต่ทาง แรนเกล บริซิโท บอกว่า “เราเชื่อว่านั่นไม่ใช่กรณีนี้”
“เราเชื่อว่านั่นเป็นพฤติกรรมที่ไตร่ตรองแล้วบนส่วนหนึ่งของราชนาวีสหรัฐฯ มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการยั่วยุอีกครั้ง ที่พวกเขาต้องการให้ประเทศของเราตกหลุมพลาง” เขากล่าว
ด้าน เคซีย์ เปิดเผยว่า เวเนซุเอลายังไม่ได้ติดต่อสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงคารากัสอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว และบอกว่า สหรัฐฯ ยินดีที่จะเข้าชี้แจงเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเวเนซุเอลา
เครื่องบินสอดแนมทางทะเลไวกิงเอส-3 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ บินออกจากฐานในเกาะคูราเคา ในปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติดในในทะเลแคริบเบียน ของสำนักงานร่วมเฉพาะกิจภาคใต้ หรือ JIATF
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ บอกว่า เครื่องบินได้ประสบปัญหาด้านการนำร่องเป็นช่วงๆ ทำให้พลัดหลงเข้าไปในน่านฟ้าของเวเนซุเอลา
ก่อนหน้านี้ JIATF ได้ออกแถลงการณ์ขอบคุณความช่วยเหลือของหน่วยควบคุมการจราจรทางอากาศของเวเนซุเอลา ที่ได้ช่วยนำทางให้เครื่องบินสหรัฐฯ สามารถกลับเข้าสู่น่านฟ้านานาชาติได้ หลังจากภาษาเป็นอุปสรรคในการสื่อสารช่วงแรกๆ แต่ก็สามารถเจรากันได้ในเวลาต่อมา
