เอเจนซี – เจ้าหน้าที่เผยมือปืนฟิลิปปินส์หลายคน พร้อมอาวุธอัตโนมัติครบมือ บุกหมู่บ้านกสิกรนอกเมืองมะนิลา สังหารผู้คนไป 9 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่กำลังหลับ
ตำรวจตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนหน้านี้ว่า เหตุสังหารหมู่ใกล้เมืองคาลัมบาในคืนวันอาทิตย์ (18) ที่ผ่านมา อาจเป็นฝีมือของมือปืนเพียงคนเดียว ทว่า ริคาร์โด พาดิลลา หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจภูมิภาคเผยว่า มีชายหลายคนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าว และเชื่อว่า สาเหตุมาจากความอาฆาตแค้นกัน
“เราได้รับข้อมูลว่านี่เป็นการฆ่าล้างแค้น เนื่องจากความอาฆาตของครอบครัวที่มีมาเนิ่นนาน” พาดิลลากล่าว
ผู้อำนวยการเนสเตอร์ เดอ ลา คูวา หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมือง ระบุว่า อดีตนายทหารนายหนึ่งถูกสอบสวน หลังจากพบแม็กลูกปืนเอ็ม 16 ว่างเปล่า ซึ่งมีชื่อของเขาตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ขณะที่ เขาปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นการสังหารหมู่ครั้งนี้
ตำรวจ เสริมว่า มือปืนหลบหนีไป หลังจากก่อเหตุแล้ว โดยผู้เสียชีวิต 5 รายเป็นเพียงแค่เด็ก และอีกอย่างน้อย 5 รายได้รับบาดเจ็บ เหยื่อทั้งหมดเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน
ทั้งนี้ การยิงสังหารหมู่เกิดขึ้น 2 วันหลังจากมือปืน ไม่ทราบจำนวนบุกธนาคารยิงลูกจ้างเสียชีวิต 10 คนในเมืองคาบูเยา และขโมยเงิน ซึ่งตำรวจประเมินว่ามีมูลค่า 15 ล้านเปโซ หรือประมาณ 11,200,000 บาทไป
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ใดได้เลย
ตำรวจตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนหน้านี้ว่า เหตุสังหารหมู่ใกล้เมืองคาลัมบาในคืนวันอาทิตย์ (18) ที่ผ่านมา อาจเป็นฝีมือของมือปืนเพียงคนเดียว ทว่า ริคาร์โด พาดิลลา หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจภูมิภาคเผยว่า มีชายหลายคนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าว และเชื่อว่า สาเหตุมาจากความอาฆาตแค้นกัน
“เราได้รับข้อมูลว่านี่เป็นการฆ่าล้างแค้น เนื่องจากความอาฆาตของครอบครัวที่มีมาเนิ่นนาน” พาดิลลากล่าว
ผู้อำนวยการเนสเตอร์ เดอ ลา คูวา หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมือง ระบุว่า อดีตนายทหารนายหนึ่งถูกสอบสวน หลังจากพบแม็กลูกปืนเอ็ม 16 ว่างเปล่า ซึ่งมีชื่อของเขาตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ขณะที่ เขาปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นการสังหารหมู่ครั้งนี้
ตำรวจ เสริมว่า มือปืนหลบหนีไป หลังจากก่อเหตุแล้ว โดยผู้เสียชีวิต 5 รายเป็นเพียงแค่เด็ก และอีกอย่างน้อย 5 รายได้รับบาดเจ็บ เหยื่อทั้งหมดเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน
ทั้งนี้ การยิงสังหารหมู่เกิดขึ้น 2 วันหลังจากมือปืน ไม่ทราบจำนวนบุกธนาคารยิงลูกจ้างเสียชีวิต 10 คนในเมืองคาบูเยา และขโมยเงิน ซึ่งตำรวจประเมินว่ามีมูลค่า 15 ล้านเปโซ หรือประมาณ 11,200,000 บาทไป
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้ใดได้เลย