เอเอฟพี - ตำรวจปราบจลาจลกระจายกำลังรอบทำเนียบประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย วันนี้ (12) หลังนักศึกษาหลายร้อยคนรวมตัวกันชุมนุมประท้วงต่อต้านแผนขึ้นราคาน้ำมันของรัฐบาลและการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายใต้การปกครองสมัยซูฮาร์โต
ตำรวจ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หลายพันนายเตรียมพร้อม ขณะที่ความตึงเครียดทั่วอินโดนีเซีย ก่อนครบรอบ 10 ปี สิ้นสุดยุคสมัยเผด็จการของประธานาธิบดีซูฮาร์โต และจากความโกรธเคืองของประชาชนต่อภาวะเงินเฟ้อที่ถีบตัวสูงขึ้น
เจ้าหน้าที่ได้ขึงลวดหนามรอบถนนบริเวณด้านนอกของทำเนียบ และยืนเรียงแถวถือโล่ป้องกัน ขณะที่ผู้ประท้วงตะโกนด่าทอและชูป้ายตำหนิรัฐบาลในประเด็นต่างๆ
ปัญหาหลักในความกังวลต่างๆ ของผู้ชุมนุม คือ แผนขึ้นราคาน้ำมันอีกอย่างมาก 30 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับความล้มเหลวในการฟ้องร้องเอาผิดกับญาติและคนสนิทของซูฮาร์โต ในข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่นและละเมิดสิทธิมนุษยชน
ด้านเมืองสุราบายา เมืองใหญที่สุดเป็นอันดับ 2 ของอินโดนีเซีย ได้มีการประท้วงเช่นกัน และมีเหตุรุนแรงในเวลาสั้นๆ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวของตำรวจบริเวณด้านนอกของมหาวิทยาลัยแอร์ลังกา สถานีวิทยุเอลชินตารายงาน
สถานีวิทยุเอลชินตา รายงานว่า มีนักศึกษารายหนึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะระหว่างปะทะกับตำรวจ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่ประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน เข้าร่วมพิธีภายในมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ ยังมีการชุมนุมอีกหลายเมืองทั้งบนเกาะชวาและสุมาตรา
ก่อนหน้านี้ นายโบดิโอโน รมว.เศรษฐกิจ เปิดเผยวานนี้ว่า รัฐบาลจะขึ้นราคาเชื้อเพลิงสู่ระดับที่ “ยอมรับได้สำหรับประชาชน” และรัฐบาลจะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ประชาชนที่มีรายได้ต่ำ
ประธานาธิบดียูโดโยโน กล่าวว่า รัฐบาลกำลังทบทวนสัดส่วนการปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงเพื่อไม่ให้กระทบต่องบประมาณของรัฐ และกล่าวเสริมว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาการปรับเพิ่มราคาน้ำมันเชื้อเพลิงราว 20-30 เปอร์เซ็นต์
หนังสือพิมพ์หลายฉบับรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อในสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาขึ้นราคาเชื้อเพลิง 28.7 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉลี่ยในเดือนมิถุนายนนี้