เอเอฟพี - พรรคการเมืองกลุ่มฝักใฝ่ตะวันตกของเซอร์เบีย ออกมาอ้างชัยชนะหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ (11) ถือเป็นการให้อาณัติพวกเขาใกล้ชิดกับสหภาพยุโรปมากขึ้น แม้ว่ายังมีบาดแผลที่ต้องสูญเสียดินแดนโคโซโวก็ตาม
“ณ ช่วงเวลานี้ มันสำคัญที่ต้องพูดว่าพลเมืองของเซอร์เบียยืนยันโดยไม่มีข้อสงสัยเคลียร์เส้นทางสู่ยุโรปสำหรับเซอร์เบีย” ประธานาธิบดีบอริส ทาดิค ผู้ถือธงฝักใฝ่ฝ่ายยุโรป บอกกับผู้สื่อข่าว "มีความจำเป็นที่ต้องจัดจั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด” ทาดิคกล่าว ณ ที่ทำการพรรคเดโมแครตปาร์ตีของเขา
ก่อนหน้านี้ การนับคะแนนของคณะกรรมาธิการเลือกตั้ง โพลของนักสังเกตการณ์และพรรคการเมืองหลายพรรคออกมาว่า พรรคพรรคพันธมิตรฝักใฝ่ฝ่ายยุโรปซึ่งมีพรรคเดโมแครตปาร์ตีที่พยายามผลักดันให้เซอร์เบียเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในอนาคตเป็นหัวหอก ได้รับคะแนนเสียงมากถึง 39 เปอร์เซ็นต์
การคาดหมายดังกล่าวทำให้ฝ่ายสนับสนุนออกมาจุดพลุไฟ และฉลองกันอย่างกว้างขวางบนท้องถนนในกรุงเบลเกรด โดยรถหลายคันประดับประดาธงชาติเซอร์เบีย พรรคเดโมแครตปาร์ตีและธงของสหภาพยุโรป บีบแตรระหว่างที่ขับรถฉลองไปทั่วเมือง
อย่างไรก็ตาม พรรคเรดิคอลซึ่งมีนโยบายชาตินิยมสุดขั้วเตือนทาดิคต่อการกระโดดโลดเต้น โดยอ้างว่าพรรคโปรยุโรปอาจเจอปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์
“มีความเป็นไปได้สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลผสมโดยไม่มีพรรคเดโมแครตปาร์ตี” โทมิสลาฟ นิโคลิช หัวหน้าพรรคเรดิคอลกล่าว พร้อมส่งสัญญาณสับสนยังไม่แน่ชัดว่าพรรคใดบ้างที่ได้จะเริ่มเจรจาร่วมจัดตั้งรัฐบาล
หัวหน้าพรรคเรดิคอล ประกาศก่อนการเลือกตั้งว่า จะยุตินำเซอร์เบียเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสหภาพยุโรป หลังอียูรับรองโคโซโวที่ประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีนัยเป็นการลงประชามติว่า เซอร์เบียจะพร้อมเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูหรือไม่
ถ้าผลการเลือกตั้งได้รับการยืนยัน นับเป็นการฟันฝ่าอุปสรรคของชาวเซอร์เบีย หลังต้องเปลี่ยนรัฐบาลมาหลายชุดนับตั้งแต่สิ้นสุดยุตสมัยของอดีตประธานาธิบดีสโลโบดาน มิโลเซวิค จนเซอร์เบียขาดเอกภาพในทางเดินสู่การเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป
การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเซอร์เบีย สูญเสียดินแดนโคโซโว ที่ประกาศเอกราชได้ 3 เดือน
ราว 40 ประเทศนำโดย สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น และชาติสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ได้รับรองการประกาศเอกราชของโคโซโว สร้างความโกรธเคืองให้กับฝ่ายต่อต้านตะวันตก จนนำไปสู่การประท้วงและความรุนแรงในเซอร์เบีย