เอเอฟพี – จำนวนผู้เสียชีวิตในการยิงโจมตีอย่างรุนแรงในเลบานอนตลอดคืนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 18 ศพแล้ว ขณะที่ สถานการณ์ทางตะวันตกของเบรุตเริ่มสงบลงแล้ว
ชาวเมืองยังคงใช้ชีวิตอย่างเสี่ยงภัย และธุรกิจต่างๆ ยังต้องเปิดกิจการในวันนี้ (10) หลังจากการยิงปะทะกันอย่างนองเลือด ระหว่างผู้สนับสนุนรัฐบาล ที่ตะวันตกหนุนหลัง และกลุ่มติดอาวุธฝ่ายค้าน ที่นำโดยกลุ่มฮิฐบอลเลาะห์ ซึ่งโจมตีภาคตะวันตกของเมืองหลวงในวันศุกร์ (9) ที่ผ่านมา
“มีผู้เสียชีวิต 2 คนในการปะทะกันระหว่างฝ่ายค้าน ดรูซ และผู้สนับสนุนรัฐบาล ในเอเลย์ (เขตภูเขาทางตะวันออกของเมืองเบรุต)” เจ้าหน้าที่เผย
นอกจากนี้ ในวันศุกร์ (9) ที่ผ่านมา ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 5 รายจากพื้นที่ต่างๆ กันในประเทศ ซึ่งเป็นหญิง 2 รายในซิดอน เมืองท่าทางใต้ และเมืองเบกาวัลเลย์ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายงาน โดยเสริมว่า สามีของหญิงที่เสียชีวิตในเมืองซิดอนก็ถูกสังหารในการปะทะกันนี้ด้วย
สำหรับเมืองเบรุตเอง มีผู้เสียชีวิตราว 11 คน ขณะที่ ส่วนตะวันตกของเมืองหลวงแห่งนี้ตกอยุ่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ในการต่อสู้ที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในปี 1975-1990
อย่างไรก็ดี ในวันนี้ (10) การจราจรในละแวกใกล้เคียงเริ่มกลับเป็นปกติ หลังจากร้างมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี (8) ที่ผ่านมา และเริ่มมีคนออกมาเก็บกวาดซากความเสียหายบนท้องถนน ซึ่งมีกระสุนตกเกลื่อน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันออกจากบ้านตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา” ซาเมียกล่าว ขณะเดินไปทำงานที่ธนาคาร ในเขตฮัมรา “อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าความสวบเช่นนี้คงเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น”
ขณะที่ กองทัพยังคงตรึงกำลังหนาแน่น และถนนบางแห่งยังถูกกีดขวางอยู่ เพื่อป้องกันเหตุนองเลือดที่อาจเกิดขึ้นอีกได้
ทั้งนี้ กลุ่มติดอาวุธชีอะห์ ที่ภักดีต่อฝ่ายค้าน ซึ่งนำโดยกลุ่มฮิฐบอลเลาะห์ อ้างว่า สามารถควบคุมพื้นที่ของชาวสุหนี่ ทางตะวันตกของกรุงเบรุตไว้ได้ โดยนับเป็นการเพิ่มวิกฤตความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ซีเรียและอิหร่านให้การสนับสนุน