เอเอฟพี - แพทย์โรคไตเมืองออสซี่เปิดประเด็นจริยธรรมทางการแพทย์ให้ถกเถียงกันอีกครั้งเมื่อวานนี้ (5) โดยเสนอว่ารัฐบาลควรอนุญาตให้มีการขายอวัยวะได้อย่างถูกกฎหมาย เพื่อช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่รอการผ่าตัดเปลี่ยนไตลง และหยุดยั้งไม่ให้ผู้ป่วยต้องเดินทางไปเพื่อซื้ออวัยวะจากตลาดมืดในประเทศกำลังพัฒนา
กาวิน คาร์นีย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไต ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ว่า คนวัยหนุ่มสาวที่มีสุขภาพดีควรได้รับอนุญาตให้ขายไตของตนเองได้ในราคาสูงถึง 50,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วย และหยุดยั้งไม่ให้ผู้ป่วยต้องเดินทางไปยังประเทศกำลังพัฒนา เช่น ปากีสถานหรืออินเดีย เพื่อซื้อไตจากตลาดมืดที่มีราคาสูงราว 30,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
"เราควรทำในทางตรงกันข้าม คือจ่ายเงินซื้อจากคนของเราเพื่อให้เขาได้มีเงินซื้อรถใหม่สักคันหรือบ้านสักหลัง ส่วนผู้ป่วยที่รอเปลี่ยนไตก็จะลดจำนวนลงไปได้ถึงครึ่งหนึ่งภายในราวห้าปีด้วย" คาร์นีย์บอก
ปัจจุบันการขายอวัยวะถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในออสเตรเลีย ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 4,400 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (4,092 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ส่วนผู้ป่วยโรคไตนั้นอาจจะต้องรอบริจาคอวัยวะนานถึง 10 ปี และมีจำนวนผู้ป่วยโรคไตกลุ่มนี้อยู่ราว 1,800 ราย ขณะที่มีผู้บริจาคไตเมื่อปีที่แล้วเพียง 343 ราย ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลสูงนับพันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของคาร์นีย์ก็ถูกโจมตีจากกลุ่มรณรงค์เรื่องการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะว่าจะเป็นการเปิดช่องให้มีการกระทำผิด และอาจทำให้คนยากจนสุ่มเสี่ยงต่อการถูกหลอกใช้ได้
ผู้อำนวยการศูนย์ไตออสเตรเลีย เสนอว่า รัฐบาลควรเน้นการรณรงค์ให้ชาวออสเตรเลียบริจาคอวัยวะให้มากขึ้นจะดีกว่า เพราะสถานการณ์ที่ผู้ป่วยต้องรอคอยอวัยวะนานหลายๆ ปีโดยไม่มีคำตอบเช่นนี้เป็นเรื่องน่าเศร้า และตัวผู้ป่วยเองก็จะรู้สึกท้อแท้อย่างมาก