เอเอฟพี - ศึกปะทะกันระหว่างนักรบมุสลิมชีอะห์และกองกำลังความมั่นคงอิรัก มีคนตายไปแล้วกว่า 900 ศพในซาดร์ ซิตี้ของกรุงแบกแดด เจ้าหน้าที่อิรักเปิดเผยเมื่อวันพุธ (30) ขณะที่นายกรัฐมนตรีนูรี อัล-มาลิกี ประกาศเดินหน้ากดดันกลุ่มหัวรุนแรงจนถึงที่สุด
ยอดผู้เสียชีวิตรวมจากการต่อสู้ในซาดร์ ซิตี้ ที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว จนทำให้เมษายนกลายเป็นเดือนที่มีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงมากที่สุดในรอบปีนี้ และถือเป็นรอยด่างในคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯและรัฐบาลอิรักที่บอกว่าความมั่นคงเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
"มีผู้เสียชีวิต 925 ราย ในซาดร์ ซิตี้และอีก 2,605 คนได้รับบาดเจ็บ" โฆษกด้านแผนความมั่นคงของกรุงแบกแดดบอกกับผู้สื่อข่าว
การสู้รบกันระหว่างทหารสหรัฐที่ร่วมมือกับอิรักและนักรบชีอะห์ ซึ่งส่วนใหญ่สังกัดกองทัพมะห์ดี ของ มุกตาดา อัล ซาดร์ ปะทุขึ้นหลังจาก มาลิกี ออกคำสั่งปราบปรามกลุ่มนักรบในบาสรา ทางตอนใต้ของประเทศเมื่อวันที่ 25 มีนาคม
มาตรการปราบปรามจุดชนวนความรุนแรงทั่วพื้นที่ชาวชีอะห์ในอิรัก โดยเฉพาะในซาดร์ ซิตี้ มณฑลที่มีชาวชีอะห์อาศัยอยู่หนาแน่นและเป็นป้อมปราการสำคัญของกองทัพมะห์ดี
เหตุปะทะกันสร้างความเสียหายให้กับกองกำลังของสหรัฐฯ โดยในเดือนเมษายนมีทหารอย่างน้อย 20 รายที่ถูกฆ่าตายในแบกแดด หลายนายในจำนวนนั้นถูกสังหารรอบซาดร์ ซิตี้ ทั้งนี้ทั่วประเทศมีทหารสหรัฐฯเสียชีวิตทั้งหมด 46 นาย ทำให้เมษายนกลายเป็นเดือนแห่งการสูญเสียกำลังทหารมากที่สุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน ที่มีทหารถูกฆ่าตาย 65 นาย
กองทัพสหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าต่อสู้กับ "อาชญากร" ในซาดร์ ซิตี้ แม้ถูกจู่โจมโดยจรวดและปืนครกในเขตป้องกันกรีนโซนซึ่งเป็นที่ตั้งของทำเนียบรัฐบาลอิรักและสถานทูตสหรัฐฯอย่างต่อเนื่องก็ตาม
เมื่อวันพุธ (30) มาลิกี กล่าวหากลุ่มนักรบใช้พลเรือนเป็น "โล่มนุษย์" ขณะที่ต่อสู้กับทหารความมั่นคง พร้อมทั้งประกาศเดินหน้ากดดันขับไล่กองทัพมะห์ดีและกลุ่มหัวรุนแรงชาวสุหนี่โดยเฉพาะอัลกออิดะห์