เอเจนซี – แก๊งค้ายาเม็กซิโกแย่งกันเป็นใหญ่ก่อเหตุชักปืนขึ้นมาไล่ยิงกันในเมืองติฮวานา ติดชายแดนสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (26) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 9 คน
รอมเมล โมเรโน อัยการรัฐบาฮา กาลิฟอร์เนีย ซึ่งเมืองติฮวานาตั้งอยู่ กล่าวว่า คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 13 รายน่าจะเป็นสมาชิกเครือข่ายแก๊งค้ายา ซึ่งแย่งกันเป็นใหญ่ในพื้นที่
ด้านอากุสติน เปเรซ โฆษกสำนักงานความปลอดภัยสาธารณะของรัฐบาฮา กาลิฟอร์เนีย กล่าวว่า เหตุยิงกันในครั้งนี้ มีผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกแก๊งค้ายา 8 คน และตำรวจอีก 1 นายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธ และอาจถูกตั้งข้อหาอื่นๆ ต่อไป
เปเรซ อากีลาร์ ตำรวจในเมืองติฮวานา กล่าวว่า ตำรวจพบรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) ทะเบียนสหรัฐฯ จำนวน 21 คันซึ่งเต็มไปด้วยรูกระสุน จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในเมือง ซึ่งภายในรถพบปืนรวมทั้งสิ้น 54 กระบอก และปลอกกระสุนใช้แล้วกว่า 1,500 นัด
ตำรวจ คาดว่า แก๊งค้ายาน่าจะขับรถไล่ยิงกันมาตามถนนสายหนึ่งในเมือง ผ่านภัตตาคาร ร้านรับซ่อมรถ ศูนย์แพทย์ และร้านค้าซึ่งตั้งอยู่สองข้างทาง นอกจากนี้ที่กำแพงของโรงงานแห่งหนึ่ง รวมถึงกำแพงบ้านในละแวกดังกล่าวยังเต็มไปด้วยรูกระสุนที่แก๊งค้ายายิงใส่กัน แต่โชคดีที่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่แน่ใจว่าแก๊งค้ายาคู่อริสาดกระสุนใส่กันนานเพียงใด
ขณะที่ยามของร้านค้าแห่งหนึ่ง กล่าวว่า เขาได้ยินเสียงปืนดังสนั่นกว่าร้อยนัด ซึ่งกระสุนบางนัดยังวิ่งเฉียดตัวเขาไปอีกด้วย
“ผมก้มลงกับพื้น และเมื่อลุกขึ้นมาก็เห็นกำแพงด้านหลังถูกยิงจนพรุน นอกจากนี้ยังพบศพชายคนหนึ่งนอนตายจมกองเลือด และรถอีก 11 คันถูกจอดทิ้งอยู่บนถนน” ยามคนเดิมกล่าว
ทั้งนี้เมืองติฮวานาซึ่งตั้งอยู่ติดกับเมืองซานดิเอโกในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เป็นเมืองที่มักเกิดเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากเครือข่ายแก๊งค้ายาซึ่งมักปะทะกัน เพราะต้องการแย่งกันเป็นใหญ่ในพื้นที่ ขณะที่เครือข่ายยาเสพติดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองดังกล่าวมีชื่อว่า อาเรลลาโน เฟลิกซ์