เอเอฟพี – ตำรวจเผยมีชาวญี่ปุ่นอย่างน้อย 6 รายฆ่าตัวตายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดใช้วิธีปลิดชีพเหมือนกันนั่นก็คือ การรมก๊าซพิษ
ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ยังคงมีตัวเลขการกระทำอัตวินิบาตกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ใช้วิธีฆ่าตัวตายเหมือนกันนั่นก็คือ การสูดดมก๊าซพิษ ซึ่งตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นการเลียนแบบวิธีฆ่าตัวตายจากอินเทอร์เน็ต
โดยรายแรกเป็นการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นชาย วัย 19 ปีคนหนึ่งในจังหวัดโอกายามะ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่พบศพเขาในห้องน้ำเมื่อวันอาทิตย์ (13) หลังจากได้กลิ่นคล้ายไข่เน่าโชยออกมาจากห้องน้ำ
“วัยรุ่นคนดังกล่าวฆ่าตัวตายด้วยการสูดดมก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์เข้าไป ขณะที่หน้าประตูมีข้อความสั้นๆ เขียนไว้ว่าข้างในมีก๊าซพิษ พร้อมกับห้ามไม่ให้ใครเปิดประตูเข้าไปอีกด้วย” ตำรวจกล่าว
ขณะที่รายที่ 2 เป็นวัยรุ่นหญิง อายุ 18 ปี ซึ่งฆ่าตัวตายด้วยวิธีเดียวกันเมื่อวันอาทิตย์ (13)
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันเสาร์ (12) ตำรวจพบศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายที่ฆ่าตัวตายด้วยการรมก๊าซพิษ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงชาย วัย 26 ปีคนหนึ่งที่เขียนข้อความไว้หน้าประตูห้องน้ำในลักษณะเดียวกับวัยรุ่นในจังหวัดโอกายามะ นอกจากนี้เพื่อนบ้าน 9 คนของชายคนดังกล่าวยังถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังสูดดมก๊าซพิษเข้าไปอีกด้วย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีตัวเลขการฆ่าตัวตายในหมู่คนแปลกหน้าที่พบเจอกันในอินเทอร์เน็ต และชักชวนกันไปก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมตามแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งวิธีที่ใช้ก็คือ การรมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์นั่นเอง
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมากลับพบผู้ที่ฆ่าตัวตายด้วยวิธีใหม่นั่นก็คือ การรมก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ภายในบ้านของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการพบศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ญี่ปุ่นมีสถิติการฆ่าตัวตายอยู่ที่มากกว่า 30,000 รายต่อปี
