เอเอฟพี – ภาพอันน่าขนลุกใต้น้ำของซากเรือรบเอชเอ็มเอเอส ซิดนีย์ ถูกเผยแพร่ครั้งแรกในวันนี้ (4) หลังจาก ความภาคภูมิใจของกองทัพเรือออสเตรเลียนอนจมอยู่ในท้องมหาสมุทร นานถึง 66 ปี และทำให้ลูกเรือ 645 คนสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย
ช่วงเวลาสุดท้ายของเรือรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สร้างความงุนงงแก่นักประวัติศาสตร์หลายคน ที่สงสัยว่าทำไมผู้ออกค้นหาไม่พบผู้รอดชีวิต หรือซากเรือ หลังการต่อสู้ในปี 1941 กับเรือรบคอร์โมรัน ของเยอรมนีได้เลย
อย่างไรก็ตาม เดวิด เมิร์นส์ ผู้อำนวยการการค้นหาระบุว่า ซากเรือ ซึ่งนอนสงบนิ่งในน้ำทะเลลึกนอกชายฝั่งออสเตรเลีย เป็นซากของเรือซิดนีย์ไม่มีผิด เท่ากับเป็นการสิ้นสุดการคาดเดาเกี่ยวกับสถานที่สุดท้ายของเรือลำดังกล่าว
ภาพ ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ของมูลนิธิไฟน์ดิง ซิดนีย์ ผู้พบซากเรือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นลำกล้องปืน ป้อมปืน และดาดฟ้าเรือ โดยเมิร์นส์เผยถึงช่วงที่เรือดังกล่าวจม ซึ่งเขาเชื่อว่าเรือซิดนีย์ตั้งลำขึ้นตรง และท้ายเรือน่าจะกระแทกกับผืนทะเลก่อน แล้วจึงค่อยๆ ไถล ทำให้ใบพัดอย่างน้อยหนึ่งอันหลุดออกไป
เมิร์นส์ยังให้ข้อสังเกตบนเว็บไซต์ว่า ปล่องไฟ และเสากระโดงเรือหายไป รวมถึงเรือช่วยชีวิตทุกลำก็ไม่อยู่ประจำที่แล้ว แต่ป้อมปืนทั้งหมด 4 ป้อมยังอยู่ในที่เดิม
ขณะที่ เรือของเยอรมนีว่า สะพานเรือ และโครงสร้างของเรือซิดนีย์ ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากปืนของเรือคอร์โมรัน โดยหัวเรือถูกป้อมปืนเอ ซึ่งเก็บตอร์ปิโดไว้โจมตี ถูกทำลายในทันที
ทั้งนี้ ซากเรือรบซิดนีย์ และคอร์โมรันถูกค้นพบเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยใช้คลื่นโซนาร์อานุภาพสูงในการจำลองภาพใต้น้ำ และด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายเป็นอุปสรรคในการเก็บภาพซากเรือของนักประดาน้ำ ใต้ท้องทะเล 2,470 เมตร จนถึงขณะนี้
