เอเอฟพี - การโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ และการจู่โจมด้วยกำลังพลได้สังหาร 41 “คนร้าย” ในแบกแดด รวมไปถึงชุดปืนครก 25 คนที่เสียชีวิตหลังถูกทิ้งระเบิด กองทัพสหรัฐฯ แถลงวันนี้ (31)
เหตุการณ์นองเลือดมีขึ้นในวันอาทิตย์ (30) ทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของแบกแดด บริเวณที่กองกำลังสหรัฐฯและอิรัก รบกับกลุ่มนักรบมุสลิมนิกายชีอะห์ในสังกัดกองทัพมะห์ดี ของ มุกตาดา อัล ซาดร์ ตั้งแต่วันอังคาร (25)
ตัวเลขผู้เสียชีวิตครั้งนี้ส่งผลให้ยอดรวม 6 วันของการสู่รบระหว่างกองกำลังความมั่นคงกับกลุ่มนักรบมุสลิมนิกายชีอะห์ในแบกแดด บาสรา และหลายพื้นที่ของชาวชีอะห์ มีมากกว่า 320 ราย โดยอย่างน้อย 140 คนตายระหว่างต่อสู้ในแบกแดด
กองทัพสหรัฐฯ แถลงว่า ระหว่างทหารอเมริกันกำลังตรวจค้นพื้นที่ที่ถูกโจมตีด้วยจรวดหรือปืนครกทางตะวันออกของแบกแดดเมื่อวันอาทิตย์ ยานหุ้มเกราะป้องกันซุ่มโจมตีและป้องกันกับระเบิด (เอ็มอาร์เอพี) ถูกเล่นงานด้วยระเบิดข้างทาง จนส่งผลให้มีทหารได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
ขณะที่ทหารเข้าคุ้มกันพื้นที่ พวกเขาพบระเบิดลูกสองอยู่บริเวณใกล้เคียง ทันใดนั้นพวกเขาถูกโจมตีด้วยปืนครกหรือเครื่องยิงจรวดและปืนสั้นจากบ้านใกล้เคียง “หน่วยปืนครกยืนอยู่บนหลังคาบ้านและเปิดฉากโจมตี” แถลงการณ์เผย พร้อมระบุต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อขอกำลังสนับสนุนทางอากาศเพื่อทิ้งระเบิดใส่บ้านดังกล่าว ส่งผลให้คนร้าย 25 คนถูกสังหาร
ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแบกแดด อาชญากรอีก 8 คนถูกสังหารหลังกองกำลังสหรัฐฯบุกโจมตี แถลงการณ์อีกฉบับบอก ขณะที่แถลงการณ์ฉบับที่ 3 ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯได้สังหารคนร้ายอีก 8 คนในการโจมตีหลายระลอกเมื่อวันอาทิตย์
การต่อสู่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม หลัง นายกรัฐมนตรี นูริ อัลมาลิกี ของอิรัก สั่งการให้ทหารตำรวจเข้าโจมตีกวาดล้างที่มั่นต่างๆ ในเมืองบาสราของนักรบกองทัพมะห์ดี ซึ่งเขากล่าวว่า “เลวร้ายเสียยิ่งกว่าพวกอัลกออิดะห์”
ทางด้านกองทัพสหรัฐฯออกคำแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (30) ว่า หน่วยทหารรบพิเศษของสหรัฐฯจำนวนหนึ่งกำลังรบเคียงข้างทหารรัฐบาลอิรักในเมืองบาสรา นอกจากนั้นคำแถลงยังยืนยันข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า สหรัฐฯได้ใช้การโจมตีทางอากาศเล่นงานพวกนักรบของซาดร์
ในเมืองหลวงแบกแดดซึ่งกองบัญชาการทหารอิรักประกาศคำสั่งห้ามออกนอกบ้านตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดี (27) โดยกำหนดยุติในเวลาตี 5 ของวันอาทิตย์ (30) นั้น ได้มีการขยายคำสั่งดังกล่าวออกไปแบบไม่มีกำหนด