ฟ็อกซ์นิวส์ – เด็กหญิงชาวมลรัฐเนแบรสกา ของสหรัฐฯ วัย 10 ขวบ ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย ได้สมหวังตามความปรารถนาสุดท้าย ด้วยการมีบิดาอยู่เคียงข้าง ขณะที่เจ้าหญิงตัวน้อยผู้นี้กำลังนอนรอความตายอยู่บนเตียงผู้ป่วย
วันพุธที่แล้ว (26) คำวิงวอนของ เจย์ซี เยเกอร์ เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายได้กลายเป็นจริงขึ้นมา เมื่อ เจสัน เยเกอร์ ผู้เป็นบิดา ซึ่งต้องโทษจำคุกในมลรัฐเซาท์ดาโคตา ในข้อหายาเสพติดประเภทยาบ้า ได้รับการผ่อนผันให้ออกมาเยี่ยมลูกสาว
เจสัน ได้รับการปล่อยตัวเป็นการชั่วคราว ภายหลังมีจดหมายและโทรศัพท์มากมายเป็นกองพะเนิน ซึ่งหลั่งไหลมาจากทั่วทั้งประเทศที่พร้อมใจกันโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่ผ่อนผันให้เขาได้มาเยี่ยมลูกสาวที่ป่วยหนักอยู่ในโรงพยาบาล ทั้งนี้ จากรายงานของเคอีทีวีดอตคอม
แม้หนูน้อยเจย์ซี จะไม่สามารถพูดจา, ขยับเขยื้อนร่างกาย หรือรับประทานอาหารได้นั้น แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าพ่อเธออยู่เคียงข้างและรับรู้ถึงสัมผัสของพ่อ เห็นได้จากการที่เธอเริ่มหายใจแรงขึ้นตลอดเวลาที่บิดามาเยี่ยม ทางครอบครัวให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์
แต่อย่างไรก็ตาม 2 พ่อลูกก็มีโอกาสอยู่ด้วยกันเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น
“เจย์ซีอยากพบพ่อ เธอร้องห่มร้องไห้ในห้อง เพราะต้องการจะพบพ่อ” วอนดา เยเกอร์ มารดาของหนูน้อยเคราะห์ร้ายให้สัมภาษณ์เคอีทีวีก่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะยอมผ่อนผันให้เจสันมาเยี่ยมลูกสาว
อาการป่วยของ เจซีย์ ได้รับการบรรยายว่าต้องเฝ้าดูกันแบบนาทีต่อนาที และเมื่อเร็วๆ นี้ เธอก็ต้องทรมานกับอาการหลอดเลือดสมอง
วอนดา บอกว่า เจซีย์ เกิดอาการภาวะระบบการหายใจล้มเหลวอย่างรุนแรงเฉียบพลันถึง 3 ครั้ง เมื่อวานนี้ (27)
ทั้งนี้ เจสัน ต้องโทษจำคุกมานานเกือบ 5 ปีแล้ว ทั้งยังต้องต่อสู้กับอาการติดยาเสพติด โดยตามกำหนดที่วางไว้ เขาจะถูกส่งตัวไปยังสถานบำบัดในเดือนสิงหาคมศกนี้