บีบีซีนิวส์ – ทางการประกาศเคอร์ฟิวในกรุงแบกแดด ท่ามกลางการสู้รบที่ยังยืดเยื้อระหว่างกองกำลังความมั่นคงอิรักที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ กับกลุ่มติดอาวุธมะห์ดีของมุคตาดา อัลซาร์ด นักการศาสนานิกายชีอะห์แนวคิดสุดโต่ง
ประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 5 ทุ่มคืนวานนี้ (27) ตามเวลาท้องถิ่น (ซึ่งตรงกับ 03.00 น.ของวันนี้ (28) ตามเวลาในประเทศไทย) จนถึงเวลา 05.00 น. ของวันอาทิตย์ (30) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ “ปกป้องพลเรือน” เจ้าหน้าที่หลายคนบอก
นับตั้งแต่ทหารตำรวจอิรักบุกโจมตีแบบสายฟ้าแลบ เพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธมะห์ดีที่กบดานอยู่ในเมืองบาสรา ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันอังคาร (25) ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีนูริ อัลมาลิกี ของอิรักได้เดินทางมายังเมืองที่เกิดเหตุ เพื่อดูแลควบคุมปฏิบัติการสำคัญดังกล่าวด้วยตัวเองนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้นกว่า 130 คน โดยสถานการณ์ความรุนแรงได้ลุกลามบานปลายจากเมืองบาสราไปยังเมืองต่างๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงกรุงแบกแดดด้วย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชแห่งสหรัฐฯได้ออกมายกย่องมาตรการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นของนายกรัฐมนตรีอัลมาลิกี
ด้านอัลซาร์ด เรียกร้องให้นำวิธีการทางการเมืองมาใช้เพื่อคลี่คลายวิกฤติความรุนแรงที่เกิดขึ้น
เขาต้องการให้ “ทุกคนปฏิบัติตามกระบวนการทางเมือง, ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ และยุติการหลั่งเลือดของชาวอิรัก” ฮาซัม อัลอราญีตัวแทนอัลซาร์ดอ่านคำแถลง
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีอัลมาลิกีก็ประกาศกร้าวที่จะเดินหน้ากวาดล้างกลุ่มติดอาวุธมะห์ดีตราบเท่าที่จำเป็น
“เราตัดสินใจกระโดดเข้าสู่สมรภูมิรบครั้งนี้ และจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น” นายกฯ อิรักกล่าวสุนทรพจน์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ