ฉาวอีกแล้ว! ผู้แทนพิเศษยูเอ็นออกโรงประณามไทยหากินกับโสเภณีเด็ก

เอเอฟพี – ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิเด็กของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวหาอินเดีย กัมพูชาและไทยว่าไม่มีมาตรการในการปกป้องเด็กจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทางเพศอย่างเพียงพอ เนื่องจากหวั่นเกรงว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

ฮวน มิเกล เปอตี ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิเด็กของยูเอ็น กล่าวว่า รัฐบาลอินเดีย กัมพูชาและไทยไม่มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากเด็ก เนื่องจากต้องการผลประโยชน์ที่จะได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า

“ในบางครั้งรัฐบาลประเทศเหล่านั้นได้รับแรงกดดันอย่างหนักทั้งทางตรงและทางอ้อม ขณะที่กิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทางเพศยังคงมีอยู่ และสร้างรายได้หลายล้านดอลลาร์ให้กับประเทศ ที่หนักกว่านั้นก็คือการมองว่าข้อจำกัดของตลาดเรื่องเพศเป็นข้อจำกัดของการได้มาซึ่งรายได้” ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิเด็กของยูเอ็นกล่าว

เปอตียังกล่าวประณาม “การท่องเที่ยวที่ไร้เหตุผลดังกล่าว” ว่า เป็นการทำให้ชีวิตของเด็กหลายร้อยคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดต่อผลประโยชน์ของสังคมโดยรวม

“ในภาพรวมแล้วเอเชียเป็นภูมิภาคที่การแก้ปัญหายังเป็นเรื่องยากตราบเท่าที่การค้ามนุษย์ยังคงมีอยู่ ตำรวจมักไม่สนใจระดับและความรุนแรงของปัญหา พวกเขายอมรับอาชญากรรมประเภทนี้ในทางอ้อม ราวกับว่างานของพวกเขามีแต่การวิ่งไล่จับโจรปล้นแบงก์เท่านั้น” ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิเด็กของยูเอ็นระบุ

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศจากตะวันตกหลายคนได้หนีคดีมาอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายล่วงละเมิดทางเพศเด็กในภูมิภาคนี้ยังไม่เด็ดขาด เช่น กรณีของแกรี กลิตเตอร์ อดีตนักร้องชื่อดังของอังกฤษ ซึ่งมีชื่อจริงว่าพอล แกดด์ ที่ได้หนีคดีในข้อหาครอบครองภาพลามกเด็กจากอังกฤษมายังกัมพูชาเมื่อปี 1999 หลังรับโทษจำคุกได้เพียง 2 เดือน ก่อนที่จะถูกศาลเวียดนามสั่งจำคุกเป็นเวลา 3 ปีเมื่อปี 2005 ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 11 และ 12 ปี