บีบีซีนิวส์ - นักพิทักษ์สัตว์ป่าชี้ประชากรเสือทั่วโลกลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 3,500 ตัว ภายในเวลาเพียง 25 ปี ชี้หนึ่งในปัจจัยที่คุกคามชีวิตเสือคือความต้องการอวัยวะส่วนต่างๆของเสือไปทำยาจีน
องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) จัดการประชุมที่กรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ในเวทีประชุมนี้ บิวาช ปันดาฟ ผู้ประสานงานของ WWF ประจำเนปาล กล่าวว่าตนเชื่อว่าในปัจจุบันมีเสือทั่วโลกเหลืออยู่ราว 3,500 ตัว ลดลงครึ่งหนึ่งจากเมื่อปี1982 ที่มีเสือทั่วโลกราว 5,000 - 7,000 ตัว
นักพิทักษ์สัตว์ป่าจาก WWF ยังกล่าวว่า เสือบางสายพันธุ์ เช่น เสือเซาท์ไชน่า อาจสูญพันธุ์ในเร็วๆ นี้ ขณะที่เสือสุมาตราก็อาจสูญพันธุ์เช่นกัน
ขณะที่ซูจอย บาเนร์จี ผู้อำนวยการโครงการสายพันธุ์สัตว์ป่าของ WWF ประจำอินเดีย กล่าวว่า ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีเสือในอินเดียอยู่ราว 40,000 ตัว ทว่า ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่เกิน 1,400 ตัว น้อยกว่าจำนวนเสือในปี 2002 ถึง 60%
WWF กล่าวว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชากรเสือทั่วโลกลดลงก็คือ การที่ชาวจีนต้องการอวัยวะส่วนต่างๆ ของเสือไปทำยาจีน
บาเนร์จี กล่าวว่า ภัยคุกคามสำคัญอีกประการ ก็คือชาวนาอินเดียผู้ยากจน ซึ่งพยายามปกป้องชีวิตปศุสัตว์ที่เป็นสิ่งหาเลี้ยงชีพของชาวนา
"ที่ไหนก็ตามที่ยังมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับเสือ ท้ายที่สุดเสือก็จะเป็นผู้แพ้" บาเนร์จี กล่าว
สำหรับสถานการณ์ประชากรเสือในอินโดนีเซียก็อยู่ในขั้นวิกฤติ โดยคนตัดไม้ได้ทำลายพื้นที่ป่าฝนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเสือ เป็นบริเวณมหาศาล ทั้งนี้ WWF กล่าวว่า หากพิจารณาจากแนวโน้มในปัจจุบัน พื้นที่ป่าของอินโดนีเซียกว่า 90% อาจถูกทำลายหมดสิ้นภายในปี 2050