เอเอฟพี – เด็กหญิงชาวอินเดีย วัย 2 ขวบ ซึ่งเกิดมามี 4 แขน 4 ขา เริ่มเดินก้าวแรกๆ ได้แล้ว หลังถูกนำตัวเข้ารับการผ่าตัดมาราธอนเมื่อ 3 เดือนกว่าที่ผ่านมา
ครอบครัวของลักษมี ทัตมา เด็กหญิงซึ่งเกิดมามี 4 แขน 4 ขา กล่าวว่า ลักษมีทำให้ทุกคนในครอบครัวดีใจเป็นอย่างมากหลังฟื้นตัวจากการผ่าตัดเป็นอย่างดี ขณะที่ครอบครัวของหนูน้อยได้ย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในรัฐราชสถาน ทางตะวันตกของอินเดียหลังการผ่าตัดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิแห่งหนึ่งในการให้ที่พัก และการศึกษากับลักษมีในอนาคต
“เวลาที่ลักษมีนั่งรถเข็นเด็ก เธอจะเริ่มก้าวขาไปข้างหลัง ก่อนที่จะหัวเราะออกมา เธอชอบมันมาก ทุกวันหลังจากเธอออกจากโรงพยาบาล เธอสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้มากมายซึ่งเป็นสิ่งที่เธอทำไม่ได้ก่อนหน้านี้ และตอนนี้เธอสามารถนั่งได้เองแล้วด้วย” ภูณัม แม่ของลักษมีกล่าว
ลักษมี ซึ่งพ่อแม่ของหนูน้อยตั้งชื่อตามพระนางลักษมี เทพเจ้าแห่งความร่ำรวยในศาสนาฮินดูซึ่งมี 4 กร ลืมตาดูโลกพร้อมฝาแฝดอีกคนหนึ่งซึ่งกระดูกเชิงกรานติดกัน แต่เจริญเติบโตไม่เต็มที่ขณะอยู่ในมดลูกของผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นกรณีที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียง 1 ใน 50,000 รายของฝาแฝดที่มีร่างกายติดกัน
ชัมภูและภูณัม พ่อและแม่ของลักษมี ซึ่งมีอาชีพขายแรงงานอยู่ในรัฐพิหาร นำตัวลักษมีเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองบังกาลอร์ ทางตอนใต้ของอินเดีย หลังจากโรงพยาบาลในกรุงนิวเดลีปฏิเสธที่จะผ่าตัดให้กับหนูน้อย โดยอ้างว่าการผ่าตัดมีความซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงมากเกินไป
ขณะที่การผ่าตัดซึ่งทางโรงพยาบาลเอกชนในเมืองบังกาลอร์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด คิดเป็นเงินถึง 2.4 ล้านรูปี (1,956,000 บาท) และยังเป็นการผ่าตัดแยกส่วนเกินของฝาแฝดเป็นครั้งแรกในอินเดียอีกด้วย
แพทย์จากมูลนิธิสุเชตา กริพลานี ชิกชา นิเกตาน ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ให้ที่พักและการศึกษากับเด็กพิการ 500 คน กล่าวว่า ลักษมีจะต้องเข้ารับการผ่าตัดอีก 2 ครั้ง
“ลักษมียังมีปัญหาที่สำคัญเกี่ยวกับระบบปัสสาวะ และขาของเธอยังงอมากกว่าปกติอีกด้วย ซึ่งคาดว่าการผ่าตัดครั้งต่อไปอาจมีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า” บีเอส ภาติ แพทย์จากมูลนิธิกล่าว
ด้านชัมภู พ่อของลักษมี กล่าวว่า ลักษมีได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่มูลนิธิเป็นอย่างดี ซึ่งครอบครัวของเขามีความสุขอย่างมากที่ลักษมีสามารถผ่านพ้นการผ่าตัดที่ซับซ้อนมาได้
“มันเหมือนลูกสาวที่กล้าหาญของเราได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง” ชัมภูกล่าวทิ้งท้าย
