เลือกตั้งเดือด! ถล่มขบวนหาเสียงผู้สมัครปากีฯ ตายนับสิบ

เอเอฟพี - คนร้ายกดระเบิดฆ่าตัวตายสังหารผู้สมัครลงเลือกตั้งและพลเรือนอีก 9 ราย ในปากีสถานเมื่อวันจันทร์ (11) ขณะเดียวกัน มีผู้สนับสนุนนักการเมืองรายหนึ่งเสียชีวิตระหว่างเกิดปะทะกับพรรคการเมืองคู่แข่งในเหตุความรุนแรงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งปะทุขึ้นเรื่อยๆ

การโจมตีที่เกิดขึ้น คือ ความกังวลครั้งใหม่ต่อความปลอดภัยของการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีขึ้นอีกราว 1 สัปดาห์ข้างหน้าที่ผู้สมัครส่วนใหญ่พยายามเก็บตัวเงียบ นับตั้งแต่เกิดเหตุลอบสังหารนางเบนาซีร์ บุตโต อดีตผู้นำฝ่ายค้านระหว่างรณรงค์หาเสียงเมื่อเดือนธันวาคม

ตำรวจบอกว่าเหตุระเบิดเมื่อวันจันทร์ เกิดขึ้นในเขตนอร์ธวาซิริสถาน พื้นที่ชนเผ่าติดกับชายแดนอัฟกานิสถาน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ขบวนหาเสียงของผู้สมัครคนหนึ่งชื่อ นิสาร์ อาลี

“มันเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย คนร้ายขับรถพร้อมระเบิดพุ่งตรงไปยังขบวนของผู้สมัคร” เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับเอเอฟพีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง “มีผู้เสียชีวิต 10 ราย ในจำนวนนั้นคือผู้สมัครและเจ้าหน้าที่ ส่วนอีก 13 คนได้รับบาดเจ็บ”

เจ้าหน้าที่บอกว่า ผู้สมัครที่เสียชีวิตเป็นสมาชิกของพรรคเอเอ็นพี ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชาตินิยมของชนเผ่าพาชตุน หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ (9) มือระเบิดฆ่าตัวตายได้โจมตีขบวนหาเสียงของพรรคเดียวกันนี้ในเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 25 ราย

ปากีสถานถูกโจมตีโดยมือระเบิดฆ่าตัวตายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายร้อยราย โดยทุกครั้งรัฐบาลกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของนักรบอัลกออิดะห์ และตอลิบาน

เช่นเดียวกับกรณีลอบสังหารนางบุตโต ที่ทางรัฐบาลกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของผู้บัญชาการนักรบหัวรุนแรงในเซาท์วาซิสถาน ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ โดยเหตุลอบฆ่าอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงเป็นผลให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้งมาจากเดือนมกราคม

ความรุนแรงในปากีสถานยังทำให้ โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า ตอลิบานและอัลกออิดะห์ เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อรัฐบาลอิสลามาบัด

พรรคการเมืองฝ่ายค้านกล่าวหาว่า รัฐบาลกำลังเล่นเกมคุกคามสวัสดิภาพของนักการเมืองเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับพรรคการเมืองของประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ อย่างไรก็ตามมีหลายพรรคการเมืองที่จัดเวทีปราศรัยอย่างไม่เกรงกลัวอันตรายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจคะแนนนิยมของสถาบันวิจัยสหรัฐฯ พบว่า ความเห็นอกเห็นใจต่อการเสียชีวิตของนางบุตโต ที่สิ้นลม เพราะถูกโจมตีด้วยปืนและมือระเบิดฆ่าตัวตาย ในเมืองราวัลปินดี เป็นการเพิ่มแรงสนับสนุนต่อพรรคของประชาชนปากีสถานของเธอในการเลือกตั้งครั้งนี้

โดยชาวปากีสถานถึง 50 เปอร์เซ็นต์ บอกว่า จะเลือกลงคะแนนให้กับพรรคประชาชนปากีสถน ขณะที่อีก 22 เปอร์เซ็นต์ ให้การสนับสนุนพรรคของ นาวาซ ชารีฟ อีกหนึ่งผู้นำฝ่ายค้าน นอกจากนี้มีถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องการให้ มูชาร์ราฟ ลาออกจากตำแหน่ง

นอกจากเหตุลอบสังหารแล้ว ในวันเดียวกันนี้ ได้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 คน ในเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคของนางบุตโตและเจ้าหน้าที่ของพรรคปากีสถาน มุสลิม ลีก-คิว ของประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ บริเวณแคว้นสินธุ์ ทางตอนใต้ของประเทศ