เอพี - เดนมาร์กเตรียมสืบสวนข้ออ้างที่ระบุว่าสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (ซีไออี) ใช้สนามบินแห่งหนึ่งในอาณาเขตกรีนแลนด์ ดินแดนห่างไกลมีฐานะเป็นดินแดนปกครองตนเองของประเทศเดนมาร์ก ขนย้ายนักโทษ “สงครามก่อการร้าย” อย่างลับๆ
เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในยุโรป เดนมาร์ก เริ่มต้นสืบสวนหลังจากมีรายงานเมื่อปี 2005 ระบุว่าสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ ใช้อาณาเขตของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการที่รู้จักกันว่าเป็นการลักพาตัวชาวต่างชาติที่อาจเป็นภัยคุมคามต่อความมั่นคงของประเทศ เพื่อเอาตัวไว้สืบสวน ซักถามและทรมานในคุกต่างแดน
ฮิวแมนไรต์วอทช์ กลุ่มสิทธิมนุษยชน ออกรายงานประจำปี 2008 ระบุว่า สหรัฐฯ ยังคงละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยการจัดตั้งคุกลับในต่างแดน และยังจับนักโทษในนั้นไปทรมาน แม้ว่าสภาคองเกรสพยายามให้ยุติการทรมานผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย แต่ดูเหมือนไม่เป็นผล
สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของเดนมาร์กรายงานเมื่อวันพุธ (30) อ้างว่า เที่ยวบินซึ่งบรรทุกนักโทษของซีไอเอ ไม่ได้แค่เพียงใช้สนามบินหลักและน่านฟ้าของเดนมาร์กเท่านั้น แต่ยังลงจอดที่กรีนแลนด์ ดินแดนเหนือสุดของโลก ซึ่งคั่นระหว่างยุโรปและอเมริกาเหนือ
“ด้วยข้อมูลใหม่ เราจะสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและถ้าจำเป็น เราอาจร้องขอให้สหรัฐฯชี้แจงเรื่องดังกล่าว" นายกรัฐมนตรี อันเดิร์ส ฟ็อก รัสมุสเซน ระบุ พร้อมบอกต่อว่าการที่สหรัฐฯลักลอบใช้น่านฟ้าของประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต คือ สิ่งที่ยอมรับไม่ได้
เดนมาร์กหนึ่งในชาติสมาชิกของนาโต เป็นหนึ่งชาติในกองกำลังผสมซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ที่ปฏิบัติภารกิจในอิรักและอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นปฏิบัติการคุกลับของซีไอเอในอาณาเขตเดนมาร์ก
ในปี 2005 รัฐบาลยืนยันว่า มีอย่างน้อย 14 เที่ยวบินต้องสงสัยที่อาจเป็นปฏิบัติการของซีไอเอ ซึ่งลักลอบใช้น่านฟ้าของเดนมาร์กตั้งแต่ปี 2001 แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าใครอยู่บนเครื่องบิน