เอเอฟพี – ศาลต่อต้านการคอร์รัปชันของฟิลิปปินส์ตัดสิน “ไม่” ยึดทรัพย์ส่วนตัวมูลค่าหลายล้านดอลลาร์จากอดีตประธานาธิบดี โจเซฟ เอสตราดา ซึ่งต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ด้วยข้อหาคอรัปชัน ในเดือนกันยายน ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี เอสตราดา ได้รับการอภัยโทษ และได้รับอิสรภาพ โดยประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย หลังจากศาลพิเศษตัดสินคดีได้ไม่นาน
ยิ่งไปกว่านั้น ศาลเคยสั่งยึดทรัพย์ของอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มากกว่า 17 ล้านดอลลาร์ ที่มาจากเงินโกงภาษี การติดสินบนจากนักเล่นพนัน ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนานกว่า 30 เดือน คืนให้แก่รัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการยึดทรัพย์ราว 5 ล้านดอลลาร์จากบัญชีธนาคารภายใต้ชื่อมูลนิธิส่วนตัวของเอสตราแล้ว
ในการสืบสวน เจ้าหน้าที่ยังพบบัญชีธนาคารที่ใช้บริหารกองทุนภายใต้ชื่อที่เชื่อว่าเป็นชื่อปลอมของเอสตราดา มีเงินอยู่หลายพันล้านดอลลาร์ทีเดียว ทว่า อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ยืนกรานเสมอมาว่า เขาได้เงินก้อนนั้นมาจากการทำงานเป็นนักแสดง และนำไปลงทุน
“คำสั่งศาลระบุว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการต่อทรัพย์สินส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดี ที่ไม่สามารถเชื่อมโยงกับความร่ำรวยผิดปกติของเขาได้โดยตรง ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นที่จะยึดทรัพย์ของประธานาธิบดีเอสตราดา” เรนาโต โบคาร์ โฆษกศาลเผย
ทั้งนี้ อดีตนักแสดงภาพยนตร์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งปี 1998 ด้วยคะแนนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งต่อมาเขาถูกบีบให้ลงจากตำแหน่ง โดยเหตุจลาจล ที่มีทหารให้การสนับสนุน จากข้อกล่าวหาคอรัปชัน และถูกกักตัวเพื่อพิจารณาคดีเป็นเวลา 6 ปี ในปัจจุบันเขาได้รับอิสระ และพยายามกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง