บีบีซี - ดาวเทียมจารกรรมขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ หลุดจากการควบคุมและคาดหมายว่าจะตกลงสู่โลกในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม แหล่งข่าวรัฐบาลเผย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลซึ่งไม่เปิดเผยชื่อรายนี้บอกกับสำนักข่าวบีบีซีว่าดาวเทียมดวงดังกล่าวสูญเสียพลังงานและแรงขับเคลื่อน ขณะที่ทำเนียบขาวบอกว่ากำลังจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แต่โฆษกทำเนียบขาวอ้างว่ามีดาวเทียมจำนวนมากหลุดจากวงโจครและหล่นกลับสู่โลกอย่างไม่อันตรายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“เรากำลังจับตาดูความเป็นไปได้ถึงความเสียหายที่อาจเกิดจากดาวเทียมดวงนี้” กอร์ดอน จอห์นโดร กล่าวพาดพิงถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ พร้อมบอกว่าเขายังไม่สามารถตอบได้ว่าสหรัฐฯ จะใช้ขีปนาวุธยิงทำลายดาวเทียมก่อนที่มันตกสู่ผืนโลกหรือไม่
สำนักข่าวเอพีอ้างคำสัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อบอกว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ปิดบังสถานการณ์นี้ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประเทศอื่นๆ ขณะที่ดาวเทียมดวงนี้ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนขับเคลื่อน ซึ่งของเหลวชนิดนี้อันตรายกับทุกคนที่สัมผัสมัน
จอห์น ไพค์ ผู้อำนวยการสถานบันวิจันด้านความมั่นคง GlobalSecurity.org, กล่าวว่า ดาวเทียมซึ่งสูญเสียการควบคุมและกำลังตกคืนสู่โลก อาจเป็นภัยต่อความลับของสหรัฐฯ ที่อาจถูกนำมาตีแผ่ได้
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเชื่อว่า การใช้ขีปนาวุธยิงดาวเทียมดวงดังกล่าว จะทำให้เศษซากของดาวเทียมหล่นมาในชั้นบรรยากาศและบางส่วนอาจถูกเผาไหม้ แต่อาจมีชิ้นส่วนที่เหลือร่วงสู่พื้นดิน โดยเขาคาดหมายว่าดาวเทียมดวงนี้มีน้ำหนักราว 9,072 กิโลกรัม
สำนักข่าวเอพีระบุว่า ยานอวกาศของนาซาลำใหญ่ที่สุดที่สูญเสียการควบคุมและหล่นสู่โลกเกิดขึ้นในปี 1979 โดยสถานีอวกาศสกายแล็บมีน้ำหนัก 78 ตัน ซึ่งถูกปล่อยตกลงสู่โลกเป็นลูกไฟสว่าง ซากส่วนใหญ่ตกลงในมหาสมุทรอินเดีย บางส่วนตกลงในทวีปออสเตรเลีย หลังจากก่อกระแสหวาดวิตกกลัวว่ายานสกายแล็บจะตกลงในแหล่งชุมชนและทำอันตรายแก่ผู้คน
