ซีเอ็นเอ็น/เอเจนซี - 4 ทศวรรษหลังการเสียชีวิตของ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ และไม่กี่สัปดาห์หลังชัยชนะการหยั่งเสียงแบบคอคัสในไอโอวาของ บารัค โอบามา โพลของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น พบว่า มีชาวอเมริกันมากเท่าที่เคยมีมา เชื่อว่า ประเทศพร้อมมีประธานาธิบดีผิวดำคนแรก
72 เปอร์เซ็นต์ ของอเมริกันชนผิวขวา และร้อยละ 61 ของคนผิวดำสหรัฐฯ จากการสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (21) บอกว่า ประเทศของพวกเขาพร้อมสำหรับการมีผู้บังคับการเป็นคนผิวดำ
ตัวเลขดังกล่าวนับว่าสูงกว่าเมื่อ 2 ปีก่อน ที่มีชาวผิวขาว 65 เปอร์เซ็นต์ และคนผิวดำ 54 เปอร์เซ็นต์ รู้สึกในแบบเดียวกัน รวมทั้งสูงกว่ากลุ่มที่เชื่อว่าประเทศมีผู้หญิงดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาว
ส่วนความกังวล 6 อันดับแรกของอเมริกันชนทั้งผิวขวาและผิวดำ ที่มีส่วนตัดสินใจเลือกผู้จะมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คือ 1.ปัญหาทางเศรษฐกิจ 2.อิรัก 3.ก่อการร้าย 4.สุขภาพ 5.ราคาน้ำมัน และ 6.อิหร่าน
สองตัวเก็งของพรรคเดโมแครต ฮิลลารี คลินตัน กับ บารัค โอบามา เปิดฉากปะทะคารมกันอย่างเผ็ดร้อนทันทีที่การโต้วาทีซึ่งจัดขึ้น ที่ ไมร์เทิล บีช รัฐเซาธ์แคโรไลนา หลังโอบามากล่าวโทษว่าสิ่งที่ฮิลลารีกับสามี คือ อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน บอกกับประชาชนระหว่างหาเสียงล้วนเป็นเท็จ ทั้งเรื่องจุดยืนต่อต้านการทำสงครามในอิรักของเขา และข้อกล่าวหาที่ว่านโยบายการเงินไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับเขา
ฮิลลารี ปฏิเสธ พร้อมกล่าวหาโอบามา ว่า เปลี่ยนแปลงจุดยืนตลอดเวลา พอมีคนทักว่าสิ่งที่พูดไม่ถูกต้อง เขาก็จะบอกว่าไม่ได้หมายความตามนั้น
โอบามา ยืนกรานว่า ทั้งฮิลลารี และสามี ใช้กลเกมการเมืองทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิด และว่า การเมืองน้ำเน่าทำให้ประชาชนกำลังมองหาคนที่พร้อมจะแก้ปัญหาและไม่ยึดติดกับการเมืองแบบเดิมๆ
ขณะที่ ฮิลลารี กับ โอบามา กำลังปะทะคารมกันอย่างเผ็ดร้อน จอห์น เอ็ดเวิร์ดส ผู้สมัครอีกคนที่เข้าร่วมการโต้วาทีครั้งนี้ด้วย ก็พูดแทรกถามเข้ามา เวทีนี้มีสามคน ไม่ใช่สองคน พร้อมบอกว่าทุกฝ่ายต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เวทีที่จะใช้พูดเรื่องส่วนตัว แต่เป็นเวทีให้พูดถึงสิ่งที่จะทำเพื่อชาติ ซึ่งเรียกเสียงตบมืออย่างกึกก้องจากผู้ที่ร่วมชมการโต้วาที
เกาะติดเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2008