เอเอฟพี - ญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอมูลค่าอย่างต่ำ 20 ล้านดอลลาร์ กระตุ้นการลงทุนและช่วยเหลือประเทศแถบลุ่มน้ำโขงรวมถึงไทยและพม่า หวังต้านทานอิทธิพลของจีนและเกาหลีใต้ในภูมิภาคนี้ที่นับวันจะเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังย้ำเตือนอย่างนุ่มนวลให้แต่ละชาติเคารพประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
ญี่ปุ่นจัดการหารือร่วมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ กับชาติแถบลุ่มน้ำโขง เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (16) โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศจากกัมพูชา ลาว ไทย เวียดนาม และพม่า เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรียาสึโอะ ฟุคุดะ แห่งญี่ปุ่น แถลงต่อรัฐมนตรีต่างประเทศแถบลุ่มน้ำโขงว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างมากต่อภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และจะพยายามยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อทำให้แนวโน้มการเติบโตที่ซ่อนเร้นในภูมิภาคนี้ กลายเป็นความจริงขึ้นมา
เมื่อคืนวานนี้ บรรดารัฐมนตรีลงนามในข้อตกลงหลายฉบับ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงฉบับหนึ่ง มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ มีเป้าหมายมุ่งสนับสนุนการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในดินแดนส่วนที่ยากจนที่สุดในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
เจ้าหน้าที่ กล่าวว่า ข้อตกลงความช่วยเหลือเหล่านี้ครอบคลุมถึงการให้เงินทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่นทางหลวงหลายสายที่เชื่อมต่อกันตลอดทั่วทั้งภูมิภาค
ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะราบรื่นนักกับจีนและเกาหลีใต้ สืบเนื่องจากการรุกราน 2 ประเทศนี้ในอดีตนั้น มองว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคสำคัญ และพยายามรักษาอิทธิพลในภูมิภาคนี้ด้วยการทุ่มเงินช่วยเหลือด้านการพัฒนาและเดินหน้าทำข้อตกลงการค้า
ทว่า เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งรับผิดชอบประเด็นด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ในช่วงไม่นานมานี้ จีนและเกาหลีใต้มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"จีนมีพรมแดนติดกับทุกชาติในแถบลุ่มน้ำโขง ยกเว้นกัมพูชาและประเทศไทย ปริมาณการค้าที่จีนทำกับชาติในภูมิภาคนี้ มีขนาดใหญ่กว่าปริมาณการค้าที่ญี่ปุ่นทำกับชาติเหล่านี้" เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าว
สำหรับสิ่งที่ทำให้การหารือเมื่อวานนี้ซับซ้อนยุ่งยาก ก็คือประเด็นเรื่องพม่า ทั้งนี้ พม่าถือว่าจีนเป็นพันธมิตรหลัก
ญี่ปุ่นไม่ยอมทำตามที่ชาติตะวันตกเรียกร้องให้ยุติความช่วยเหลือรัฐบาลทหารพม่า หลังจากที่รัฐบาลพม่าใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตและถูกจับกุมจำนวนมาก อีกทั้งในสัปดาห์นี้ยังสัญญากับรัฐบาลทหารพม่าว่าจะมอบเงิน 1.79 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงสาธารณสุขในพม่า
อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ญี่ปุ่นได้ระงับความช่วยเหลือต่อพม่า มูลค่าเกือบ 5 ล้านดอลลาร์ เป็นการประท้วงรัฐบาลทหารพม่าใช้อาวุธปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง จนทำให้ช่างภาพชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต
สกอต มาร์เชียล รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศด้านเอเชียตะวันออก กล่าวเมื่อวันอังคาร (15) ในโอกาสเดินทางเยือนญี่ปุ่นว่า ตนขอเรียกร้องให้ทุกประเทศซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นและจีน ส่งข้อความอันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เตือนรัฐบาลพม่าว่าพวกเขากำลังมุ่งไปในแนวทางที่ผิด
นอกจากนี้ ฮิวแมนไรท์วอตช์ ยังส่งหนังสือไปยังมาซาฮิโกะ โคมุระ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เรียกร้องให้รัฐบาลโตเกียวแสดงความวิตกกังวลต่อปัญหาสิทธิมนุษยชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเน้นว่าความวิตกกังวลของญี่ปุ่นต่อเรื่องดังกล่าว ควรครอบคลุมเกินกว่าพม่า
แต่ทว่า เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แต่พูดอย่างสุภาพนุ่มนวลว่า "เราใคร่สนับสนุนให้แต่ละประเทศใช้ภูมิปัญญาของตน ในแง่ของสิทธิมนุษยชนและกระบวนการประชาธิปไตย" ขณะที่เนียนวิน รัฐมนตรีต่างประเทศพม่า พยักหน้าและจดบันทึก