เอเอฟพี – ประธานาธิบดีกายูม ของมัลดีฟส์ รอดตายจากความพยายามลอบสังหารเขาอย่างหวุดหวิด ขณะเดินทางไปพบปะกับประชาชนในเมืองโฮอาราฟูชี ทางตอนเหนือของมัลดีฟส์ เมื่อวันอังคาร (8)
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของมัลดีฟส์ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี มาวมูน อับดุล กายูม ของมัลดีฟส์ รอดตายจากการถูกลอบสังหารอย่างหวุดหวิด หลังมีชายวัย 20 ปี คนหนึ่ง พยายามใช้มีดแทงเข้าที่ท้องของกายูม แต่ผู้นำมัลดีฟส์รอดพ้นจากการถูกแทงได้อย่างทันท่วงที หลังลูกเสือคนหนึ่งได้พุ่งเข้ามาจับตัวชายคนดังกล่าวไว้ได้ ก่อนที่คนร้ายจะถูกตำรวจจับตัวในที่สุด
“ท่านประธานาธิบดีกำลังทักทายประชาชนขณะที่วัยรุ่นคนหนึ่งหยิบมีดออกมา และพยายามที่จะแทงเข้าที่ท้องของท่าน” โมฮัมเหม็ด นาชีด รัฐมนตรีกระทรวงสารนิเทศ กล่าวผ่านการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากกรุงมาลี เมืองหลวงของมัลดีฟส์
โมฮัมเหม็ด ฮุสเซน ชารีฟ โฆษกของประธานาธิบดีกายูม กล่าวว่า คนร้ายซึ่งทราบชื่อต่อมา คือ โมฮัมเหม็ด มูร์ชิด ซึ่งปัจจุบันเป็นคนว่างงาน แต่ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน ได้ซ่อนมีดไว้ในธงชาติผืนหนึ่ง ก่อนที่จะก่อเหตุระทึกขวัญดังกล่าวขึ้น แต่โชคดีที่ โมฮัมเหม็ด ไจชาม ลูกเสือ วัย 15 ปี เห็นเหตุการณ์เสียก่อน และได้พุ่งเข้าไปจับตัวคนร้ายไว้ได้ จนทำให้มือของเขาได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเขาส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ อับดุลเลาะห์ ริยาซ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจของมัลดีฟส์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนกำลังสอบปากคำคนร้ายเพื่อหาแรงจูงใจของการกระทำในครั้งนี้ ขณะนี้จึงเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าคนร้ายมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มนักรบอิสลามใดหรือไม่
ด้าน กายูม ได้กล่าวสุนทรพจน์ออกอากาศไปทั่วประเทศหลังรอดตายอย่างหวุดหวิดว่า เขาต้องขอบคุณไจชาม และพระอัลเลาะห์ที่ทำให้เขารอดตายในครั้งนี้
สถานการณ์ในมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวและคู่ฮันนีมูนฐานะดีจากทั่วโลก ตกอยู่ในความตึงเครียด หลังเกิดเหตุระเบิดโจมตีกรุงมาลีเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ 12 คน ขณะที่ทางการมัลดีฟส์ ชี้ว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงที่ต้องการทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์ ซึ่งสร้างรายได้คิดเป็น 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจทั้งประเทศ