เอเจนซี - หนังสือบันทึกความทรงจำและนโยบาย โดยอดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน นางเบนาซีร์ บุตโต ที่เขียนแล้วเสร็จก่อนเกิดเหตุลอบสังหารเพียง 1 สัปดาห์ จะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ขณะที่หน่วยสืบสวนสก็อตแลนด์ยาร์ดลงมือตรวจสอบหลักฐานจากศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีขบวนหาเสียงของผู้นำฝ่ายค้าน
หนังสือชื่อ “ความปรองดอง:อิสลาม:ประชาธิปไตยและตะวันตก” ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากครอบครัวของเธอและบรรดาที่ปรึกษา แถลงการณ์ของสำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์คอลลินส์
“ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่านี่จะเป็นถ้อยคำสุดท้ายของเบนาซีร์ บุตโต และด้วยเหตุนี้จึงทำให้หนังสือมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะในเวลาเยี่ยงนี้” ทิม ดักแกน บรรณาธิการบริหารของฮาร์เปอร์คอลลินส์ กล่าว “หนังสือเล่มนี้คือมรดกของเธอ”
บุตโต คู่อริคนสำคัญของประธานาธิบดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ เสียชีวิตหลังถูกโจมตีด้วยระเบิดพลชีพและอาวุธปืนเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ระหว่างรณรงค์หาเสียงในเมืองราวัลปินดี ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงเป็นพวกสายกลางฝักใฝ่สหรัฐฯ ที่ประกาศต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายหากได้รับเลือกตั้งในการลงคะแนนเลือกสมาชิกรัฐสภาที่กำลังมาถึง
ในหนังสือดังกล่าวมีบทแถลงท้ายเล่มของ อาซีฟ อาลี ซาร์ดารี สามีของเธอและลูกทั้ง 3 คนด้วย
ขณะเดียวกัน ตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษ ได้ลงมือตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร เบนาซีร์ บุตโต เมื่อวันจันทร์ (7) จากชิ้นส่วนศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีในคราวเดียวกันนั้น
ทีมตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดได้เดินทางไปยังโรงเก็บศพในราวัลปินดี สถานที่ใช้เก็บศพ 23 เหยื่อผู้เสียชีวิต จากเหตุลอบสังหารในช่วงปลายเดือนธันวาคม โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเศษและชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งถ่ายภาพกลับมาตรวจสอบ
นอกจากนี้ หน่วยสืบสวนสกอตแลนด์ยาร์ดยังได้เดินทางไปสอบปากคำผู้ช่วยผู้อำนวยการตำรวจปากีสถาน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีและอยู่ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารคอมเบน
ประธานาธิบดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ได้เชิญทีมตำรวจสก็อตแลนด์ยาร์ดช่วยสืบสวนหาสาเหตุลอบสังหารนางบุตโต ท่ามกลางความไม่น่าเชื่อถือในข้อสรุปเบื้องต้นของรัฐบาล
ไม่มีใครออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีดังกล่าว และเชื่อว่า ผู้ลงมือจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่รัฐบาลกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของผู้นำอัลกออิดะห์ท้องถิ่น แต่ทางเจ้าตัวปฏิเสธความเกี่ยวข้อง
