ผู้ใช้สเตียรอยด์ส่วนมากไม่ใช่นักกีฬา แต่เป็นหนุ่มออฟฟิศที่อยากเพิ่มกล้าม

เอเจนซี - ผู้ใช้สารสเตียรอยด์จำนวนมากไม่ใช่นักกีฬาที่ต้องการกระตุ้นสมรรถภาพของร่างกายอย่างที่คนทั่วไปคิดกัน แต่เป็นกลุ่มคนในช่วงวัย 20 ถึง 30 กว่าๆ, มีการศึกษา และไม่ได้เล่นกีฬาด้วยซ้ำ งานศึกษาชิ้นหนึ่งระบุ

ผลสำรวจผู้ชายในสหรัฐฯที่เคยใช้สารอนาโบลิคสเตียรอยด์เกือบ 2,000 คน พบว่า ส่วนใหญ่เริ่มใช้ฮอร์โมนดังกล่าวตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว และส่วนมากไม่ได้ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางกีฬา

แต่ผู้ใช้สเตียรอยด์จำนวนมากกลับเป็นชายผิวขาวอายุประมาณ 30 มีการศึกษา มีรายได้สูงกว่าระดับเฉลี่ย และไม่ได้เป็นนักกีฬา ที่จริงแล้ว ชายหนุ่มส่วนมากใช้สเตียรอยด์เพื่อให้มีร่างกายที่ดูดียิ่งขึ้น นักวิจัยรายงานไว้ในวารสาร 'Journal of the International Society of Sports Nutrition'

"โดยรวมแล้ว งานศึกษาของเราทำลายภาพเดิมๆว่า ผู้ใช้(สเตรียรอยด์)เป็นพวกวัยรุ่นที่ชอบเสี่ยง, นักกีฬาที่โกงการแข่งขัน และกลุ่มคนที่มีลักษณะใกล้เคียงกับผู้เสพสารเสพติดทั่วไป" แจ๊ค ดาร์คส์ จากมหาวิทยาลัยเซาธ์ฟลอริดา และกลุ่มนักวิจัยร่วมระบุ

ในการศึกษาครั้งนี้ นักวิจัยหาผู้ชายที่เคยใช้สเตียรอยด์จำนวน 1,955 คนจากตามเว็บไซต์เกี่ยวกับการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสารเพิ่มกล้ามเนื้อ, ส่งอีเมล์จำนวนมาก และลงประกาศในสื่อสิ่งพิมพ์ ชายเหล่านั้นตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับประวัติภูมิหลัง, นิสัยการใช้ชีวิต และประวัติการใช้สเตียรอยด์

งานศึกษาพบว่า โดยเฉลี่ยผู้ใช้สเตียรอยด์มีอายุ 31 ปี และ 3 ใน 4 จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนมากทำงานออฟฟิศ และมีรายได้ค่อนข้างสูง

เมื่อถามเกี่ยวกับเหตุจูงใจที่ทำให้หันไปใช้สเตียรอยด์ ส่วนมากบอกว่า พวกเขาต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรง และทำให้ร่างกายมีความน่าดึงดูดมากขึ้น

มีเพียง 6 เปอร์เซนต์ที่ระบุว่า ใช้สเตียรอยด์เพราะต้องการเพาะกายหรือเพื่อการกีฬา ที่จริงแล้ว ผู้ใช้สเตียรอยด์ส่วนมากไม่เคยเข้าร่วมเล่นกีฬาที่มีการรวมตัวเล่นกันอย่างจริงจังเลย แม้แต่ในสมัยมัธยมปลาย

ผลศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ความพยายามป้องกันการใช้สเตียรอยด์อย่างผิดๆโดยเน้นระวังกลุ่มนักกีฬาวัยรุ่น กำลังให้ความสำคัญผิดกลุ่มเป้าหมาย นักวิจัยกลุ่มนี้ระบุว่า "การเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักกีฬาโดยใช้วิธีตรวจการโด๊ปยาและวิธีแทรกแซงรูปแบบอื่นๆ แทบจะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาในกลุ่มคนที่ใช้สารสเตียรอยด์ที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาเลย"

กลุ่มนักวิจัยชี้ว่า การใช้สเตียรอยด์อย่างผิดๆในสหรัฐฯแม้จะไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีระดับเท่าเดิม สิ่งนี้อาจสืบเนื่องจากผู้ใช้สเตียรอยด์กลุ่มใหญ่ที่สุด ซึ่งก็คือผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่นักกีฬา เป็นกลุ่มที่ "มองไม่เห็นอย่างแท้จริง"