เดอะ ซัน – สาวผู้ดี วัย 22 ปี ต้องจบชีวิตลงอย่างเศร้าสลด หลังเสียเลือดมากจากการให้กำเนิดลูกแฝดชายหญิง แต่ไม่ยอมรับเลือดจากโรงพยาบาล เพราะต้องการปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระยะโฮวาห์ ที่บัญญัติไว้ในคัมภีร์ไบเบิลอย่างเคร่งครัด
เอ็มมา กอช วัย 22 ปี จากเมืองเทลฟอร์ด ชร็อปไชร์ ของอังกฤษ ได้ให้กำเนิดลูกฝาแฝดเมื่อคืนวันอังคาร (25) ที่ผ่านมา โดยก่อนที่จะเข้าห้องคลอด เอ็มมาได้ยืนยันในแบบฟอร์มของโรงพยาบาล ว่า เธอไม่ยินยอมที่จะรับการให้เลือดไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม หลังการให้กำเนิดลูกแฝดชายหญิง เอ็มมาเกิดเสียเลือดมาก แพทย์จึงได้ขอร้องให้ แอนโธนี กอช สามี วัย 24 ปีของเธอ และสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว ยินยอมให้แพทย์ทำการให้เลือดกับเอ็มมา แต่ทุกคนปฏิเสธ เพราะต้องการให้เอ็มมาได้ทำตามสิ่งที่เธอตั้งใจไว้ นั่นก็คือ การปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระยะโฮวาห์ พระเจ้าสูงสุดของศาสนาคริสต์ ซึ่งห้ามในเรื่องการดื่มเลือด
การจากไปอย่างไม่คาดฝันดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับบรรดาเพื่อนๆ ของเอ็มมาอย่างมาก หลังเอ็มมาและแฟนหนุ่มเพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานกันที่หมู่เกาะบาร์บาโดสเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ปีเตอร์ เวลช์ เพื่อนสนิทของทั้งคู่ กล่าวว่า “ทุกคนตกตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่อยากจะเชื่อว่าเอ็มมาตายขณะคลอดลูกด้วยวัยที่ยังสาว และในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์เจริญก้าวหน้าเหมือนทุกวันนี้”
ขณะที่แหล่งข่าวจากสำนักงานเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของอังกฤษ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพจะเข้าไปสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นที่เอ็มมาไม่ยอมรับการให้เลือดจากโรงพยาบาล เพื่อตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ พยานพระยะโฮวาห์จะมีความเชื่อในเรื่องการห้ามเปลี่ยนถ่ายเลือด เนื่องจากถือว่าการกระทำดังกล่าวเปรียบได้กับการดื่มเลือด ซึ่งถือเป็นบาปอย่างหนึ่งนั่นเอง
