ญี่ปุ่นเคืองนักบินมือทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิมาตายโดยไม่เคยขอโทษ

เอเอฟพี – ชาวญี่ปุ่นผู้รอดชีวิตจากการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกของโลกที่เมืองฮิโรชิมา รู้สึกโกรธเคืองที่นักบินชาวอเมริกัน ผู้ทิ้งระเบิดปรมาณูทำลายล้างทั้งอาคารบ้านเรือนและชีวิตผู้คน สิ้นลมไปโดยไม่กล่าวแสดงความเสียใจสักครั้ง

พอล วอร์ฟิล์ด ทิบเบตส์ จูเนียร์ ซึ่งขับเครื่องบิน B-29 ชื่อ อีโนลา เกย์ ทิ้งระเบิดปรมาณู “ลิตเติลบอย” หนัก 9,000 ปอนด์ที่เมืองฮิโรชิมาเมื่อ 6 สิงหาคม ปี 1945 ได้เสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ (1) ที่บ้านเกิดของเขาในเมืองทางตะวันตกของโคลัมบัส โอไฮโอ ขณะที่เขามีอายุ 92 ปี

ทิบเบตส์ไม่เคยแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เขาได้ทำลงไป ในการทิ้งระเบิดที่นำไปสู่การยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง โดยมี 140,000 กว่าชีวิตที่ต้องสังเวยในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น รวมไปถึงชาวญี่ปุ่นอีกกว่า 80,000 คนที่ต้องประสบชะตากรรมเลวร้ายจากผลของปรมาณูคราวนั้น ตามรายงานของทางการฮิโรชิมา

ขณะที่ โนริ โทเฮ ชาวญี่ปุ่นวัย 79 ปี ผู้รอดชีวิตจากสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลกออกมาแสดงความไม่พอใจทิบเบตส์ว่า “เขาไม่กล่าวขอโทษ แต่ให้เหตุผลเหมือนกับรัฐบาลอเมริกันว่าการทิ้งระเบิดครั้งนั้นช่วยชีวิตชาวอเมริกัน และชาวญี่ปุ่นหลายล้ายคนโดยการยุติสงคราม”

“แต่ผมต้องการให้เขามาที่ฮิโรชิมา และมองด้วยตาของเขาเองว่าอะไรที่เขาได้ทำลงไปในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง” โทเฮ ประธานร่วมสมาพันธ์องค์การผู้ทนทุกข์จากระเบิดเอ และเอชของญี่ปุ่นกล่าว

โทเฮยังเสริมว่า “เขาอาจต้องทำตามคำสั่งในฐานะทหาร แต่ผมต้องการให้ขาตระหนักว่ามันเป็นความผิดพลาด และเขาต้องขอโทษผู้ที่เสียชีวิต หรือต้องทรมานกับผลข้างเคียงมาอย่างยาวนาน”

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 1945 โทเฮที่เพิ่งจะมีอายุ 17 ปี 3 วันหลังจากระเบิดลงที่ฮิโรชิมา และเป็นวันที่ระเบิดลูกที่ 2 ถูกทิ้งที่เมืองนางาซากิ ทว่า สหรัฐฯ ไม่เคยกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการต่อการโจมตีในครั้งนั้นแต่อย่างใด