เอเจนซี - มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติอังกฤษนั้นไม่ใช่เจ้าพ่อธุรกิจเหล็กกล้า, เทรดเดอร์ในตลาดการเงิน หรือเจ้าของทีมฟุตบอล แต่เป็นนายทหารต่างหาก
อลัน รูฟัส เดิมเป็นชาวฝรั่งเศสและข้ามมายังเกาะอังกฤษเพื่อร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับวิลเลียมผู้พิชิต (พระเจ้าวิลเลียมที่1) ซึ่งเป็นลุงของเขา ในปี 1066 รวมแล้วเขามีทรัพย์สมบัติมูลค่าประมาณ 81,300 ล้านปอนด์เมื่อเทียบเป็นเงินปัจจุบัน
ทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลของเขาทำให้มหาเศรษฐีพันล้านคนอื่นๆดูกระจอกลงไปเลยทีเดียว โดย 'เสี่ยหมี' โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมฟุตบอลเชลซี มีทรัพย์สินมูลค่า 10,800 ล้านปอนด์ และลักษมี มิตตัล ประธานบริษัทเหล็กมิตตัล สตีล มีทรัพย์สินราว 19,300 ล้านปอนด์ ความร่ำรวยของรูฟัสนั้นยังคิดเป็นเกือบ 3 เท่าของบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์
เศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ส่วนมากจะเป็นคนสมัยก่อน โดยผู้ติดอันดับท็อป 250 จะเป็นบรรดาเจ้าของที่ดิน พ่อค้า นายธนาคาร พระ และทหาร
มิตตัลนั้นครองอันดับ 20 ส่วนอบราโมวิชอยู่อันดับ 59
อันดับเศรษฐีดังกล่าวตีพิมพ์ลงหนังสือชื่อว่า "The Richest of the Rich" เขียนโดยฟิลิป เบเรสฟอร์ด ผู้จัดอันดับบุคคลร่ำรวยประจำปีให้หนังสือพิมพ์เดอะซันเดย์ไทม์ส และวิลเลียม รูบินสไตน์ อาจารย์ด้านประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเวลส์
อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับเศรษฐีครั้งนี้ ไม่นับรวมกษัตริย์ เพราะเป็นการยากที่จะประเมินทรัพย์สินของพระองค์
เมื่อรูฟัสเสียชีวิตไปตอนอายุได้ 53 ปี เขามีทรัพย์สิน 11,000 ปอนด์ ส่วนมากเป็นที่ดินผืนใหญ่ที่พระเจ้าวิลเลียมที่1 พระราชทานเป็นรางวัลที่เขาปราบกบฏแซกซอนทางตอนเหนือได้
เบเรสฟอร์ดและรูบินสไตน์ ใช้ข้อมูลจากบันทึกการพิสูจน์พินัยกรรม และเอกสารยุคโบราณ คำนวณได้ว่า ทรัพย์สินของรูฟัสมีมูลค่ามากกว่า 7% ของรายได้ประชาชาติในสมัยนั้น ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เขาจะมีทรัพย์สิน 81,300 ล้านปอนด์
รูบินสไตน์กล่าวกับรอยเตอร์ว่า "ยิ่งย้อนกลับไปนานเท่าไหร่ คนรวยยิ่งร่ำรวยมากเท่านั้น การเป็นคนรวยในอดีตนั้นง่ายกว่าในปัจจุบัน
"ปกติแล้ว ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม ความร่ำรวยจะมาจากที่ดินและการค้า และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เศรษฐีจำนวนมากขึ้นก็มาจากกรุงลอนดอน
"เรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ เศรษฐีถูกเก็บภาษีและภาษีมรดกอย่างมหาศาลในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 มันทำให้พวกเขาหายรวยทีเดียว" รูบินสไตน์ กล่าว
อลัน รูฟัส เดิมเป็นชาวฝรั่งเศสและข้ามมายังเกาะอังกฤษเพื่อร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับวิลเลียมผู้พิชิต (พระเจ้าวิลเลียมที่1) ซึ่งเป็นลุงของเขา ในปี 1066 รวมแล้วเขามีทรัพย์สมบัติมูลค่าประมาณ 81,300 ล้านปอนด์เมื่อเทียบเป็นเงินปัจจุบัน
ทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลของเขาทำให้มหาเศรษฐีพันล้านคนอื่นๆดูกระจอกลงไปเลยทีเดียว โดย 'เสี่ยหมี' โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมฟุตบอลเชลซี มีทรัพย์สินมูลค่า 10,800 ล้านปอนด์ และลักษมี มิตตัล ประธานบริษัทเหล็กมิตตัล สตีล มีทรัพย์สินราว 19,300 ล้านปอนด์ ความร่ำรวยของรูฟัสนั้นยังคิดเป็นเกือบ 3 เท่าของบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์
เศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ส่วนมากจะเป็นคนสมัยก่อน โดยผู้ติดอันดับท็อป 250 จะเป็นบรรดาเจ้าของที่ดิน พ่อค้า นายธนาคาร พระ และทหาร
มิตตัลนั้นครองอันดับ 20 ส่วนอบราโมวิชอยู่อันดับ 59
อันดับเศรษฐีดังกล่าวตีพิมพ์ลงหนังสือชื่อว่า "The Richest of the Rich" เขียนโดยฟิลิป เบเรสฟอร์ด ผู้จัดอันดับบุคคลร่ำรวยประจำปีให้หนังสือพิมพ์เดอะซันเดย์ไทม์ส และวิลเลียม รูบินสไตน์ อาจารย์ด้านประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเวลส์
อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับเศรษฐีครั้งนี้ ไม่นับรวมกษัตริย์ เพราะเป็นการยากที่จะประเมินทรัพย์สินของพระองค์
เมื่อรูฟัสเสียชีวิตไปตอนอายุได้ 53 ปี เขามีทรัพย์สิน 11,000 ปอนด์ ส่วนมากเป็นที่ดินผืนใหญ่ที่พระเจ้าวิลเลียมที่1 พระราชทานเป็นรางวัลที่เขาปราบกบฏแซกซอนทางตอนเหนือได้
เบเรสฟอร์ดและรูบินสไตน์ ใช้ข้อมูลจากบันทึกการพิสูจน์พินัยกรรม และเอกสารยุคโบราณ คำนวณได้ว่า ทรัพย์สินของรูฟัสมีมูลค่ามากกว่า 7% ของรายได้ประชาชาติในสมัยนั้น ซึ่งหากคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เขาจะมีทรัพย์สิน 81,300 ล้านปอนด์
รูบินสไตน์กล่าวกับรอยเตอร์ว่า "ยิ่งย้อนกลับไปนานเท่าไหร่ คนรวยยิ่งร่ำรวยมากเท่านั้น การเป็นคนรวยในอดีตนั้นง่ายกว่าในปัจจุบัน
"ปกติแล้ว ก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม ความร่ำรวยจะมาจากที่ดินและการค้า และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เศรษฐีจำนวนมากขึ้นก็มาจากกรุงลอนดอน
"เรื่องที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ เศรษฐีถูกเก็บภาษีและภาษีมรดกอย่างมหาศาลในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 มันทำให้พวกเขาหายรวยทีเดียว" รูบินสไตน์ กล่าว