เอเจนซี - อัยชะห์ โอบีด สาวดูไบ วัย 22 ปี ต้องพลาดตำแหน่งพนักงานขายไปโดยปริยาย เนื่องจากเธอสวม “นิกับ” หรือผ้าคลุมหน้าที่เปิดเผยเพียงแค่ดวงตา 2 ข้าง กับโลกภายนอก ดังนั้น เพื่อให้เธอได้งานในคราวต่อไป เธอจึงตัดสินใจถอดผ้าคลุมหน้านี้ทิ้ง
อัยชะห์ วัย 22 ปี เปิดใจว่า “ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สวมใส่นิกับ แล้วได้ทำงานในร้านค้า”
ไม่เพียงแต่หญิงชาวมุสลิมซึ่งคลุมศีรษะ และอาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น ที่ต้องเผชิญกับปัญหาในการสมัครงานบางประเภท แต่หญิงในโลกมุสลิมเองก็มีชะตากรรมที่ไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในอาชีพที่ต้องติดต่อสื่อสารกับสาธารณชน
ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นบรรดาผู้หญิงทำงานอยู่ในออฟฟิศโดยส่วนมากแล้ว พวกเธอจะแต่งกายด้วยชุดคลุมยาวสละสลวย และผ้าคลุมศีรษะธรรมดา แต่สำหรับผู้ที่สวมนิกับซึ่งเปิดเผยเพียงแค่ดวงตาแล้ว มีไม่กี่คนที่จะได้ประจำตำแหน่งที่เคาน์เตอร์
อัลดุลเลาะห์ นาเซอร์ ผู้จัดการที่ทำการไปรษณีย์แห่งหนึ่งในดูไบ บอกว่า ผู้หญิงที่สวมนิกับจะไม่ได้รับอนุญาตให้ประจำที่เคาน์เตอร์ โดยพวกเธอจะได้รับงานด้านธุรการแทน เพราะลูกค้าต้องการที่จะรู้ว่าเขากำลังติดต่ออยู่กับใคร
การสวมผ้าคลุมหน้ากลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ร้อนแรงในหลายๆ ประเทศ เกี่ยวกับสิทธิของผู้หญิงในการสวมนิกับเพื่อศึกษาในโรงเรียน, การรับราชการเป็นตำรวจ, ครู หรืออาชีพต่างๆ ที่ต้องติดต่อกับสาธารณชน
นอรา อัล-บีดูร์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า บางบริษัทมีนโยบายไม่ให้ผู้หญิงสวมใส่นิกับในระหว่างการทำงาน เช่น ในธนาคาร เป็นต้น
นอกจากในยูเออีแล้ว ในหลายประเทศก็ต้องประสบภาวะถกเถียงถึงการสวมใส่นิกับ อย่างเช่นอียิปต์ ซึ่งมีผู้หญิงที่สวมผ้าคลุมหน้ากันมาขึ้น ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ศาลเมืองพีระมิดตัดสินว่า มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่รับรองฐานะโดยสหรัฐฯ เป็นฝ่ายผิดที่ผิดห้ามมิให้หญิงคนหนึ่งที่สวมนิกับเข้าเรียน