เอเอฟพี – นักโบราณคดีขุดพบมัมมี่นักบวชแห่งเทพอามุน ซึ่งคาดว่ามีอายุมากกว่า 3,000 ปีในเมืองลักซอร์ ทางตอนใต้ของอียิปต์
ซาฮี ฮาวาสส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี กล่าวว่า มัมมี่ในสมัยราชวงศ์ที่ 18 แห่งเซนเนเฟอร์ถูกขุดพบในสุสานแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาฟาโรห์ หรือวัลลีย์ ออฟ เดอะ คิงส์ หนึ่งในโบราณสถานที่มีชื่อเสียงมากสุดของโลก
“มัมมี่ตัวนี้ถูกขุดพบในหลุมศพที่ 99 ภายในหุบเขาฟาโรห์ ทางตะวันตกของเมืองลักซอร์” ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีคนเดิมกล่าว
ทั้งนี้ ทีมนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ของอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ขุดพบมัมมี่ดังกล่าว เชื่อว่า มัมมี่ที่ขุดพบในครั้งนี้น่าจะเป็นนักบวชชั้นสูงที่มีความสำคัญรองลงมาจากฟาโรห์ในชื่อนักบวชเทพอามุน ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ปกป้องเทพอามุน เทพที่มีความสำคัญมากที่สุดของอียิปต์ โดยนักบวชเหล่านี้จะเป็นผู้ทำหน้าที่ต่างๆ รวมถึงประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และพิธีบูชาในนามของฟาโรห์
นอกจากนี้ การค้นพบครั้งนี้ยังรวมถึงมัมมี่ตัวอื่นๆ อย่างเช่น มัมมี่ตัวหนึ่งที่มีเนื้องอกในสมอง มัมมี่ที่ยังเป็นทารกในครรภ์ มัมมี่หญิงสาวที่ถูกห่อด้วยปูนพลาสเตอร์ และมัมมี่ที่ทุกข์ทรมานจากโรคข้อต่ออักเสบ
ฮาวาสส์ กล่าวด้วยว่า ทีมนักโบราณคดีจะทำรายงานการขุดพบมัมมี่ในครั้งนี้เสนอต่อฟารัค ฮอสนี รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของอียิปต์ เพื่อเป็นประโยชน์ในการกำหนดจุดสำรวจต่อไป
หุบเขาฟาโรห์เคยถูกใช้เป็นสถานที่ฝังศพสมาชิกราชวงศ์และขุนนาง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงไคโรไปทางตอนใต้ประมาณ 700 กิโลเมตร
ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนเดินทางมาเยี่ยมชมสุสานฟาโรห์อียิปต์โบราณ รวมถึงนักท่องเที่ยวหลายแสนคนที่ลงทุนเดินทางมาเป็นระยะทางไกล เพื่อที่จะได้มาถึงหุบเขาฟาโรห์แห่งนี้