เอเจนซี – นักสังเกตการณ์เนสซีถึงคราวฮือฮาอีกครั้ง หลังชายคนหนึ่งอ้างว่าได้ถ่ายวีดิโอสัตว์ประหลาดเนสซีในทะเลสาบล็อกเนสของสก๊อตแลนด์ไว้ได้ ขณะที่นักชีววิทยาทางทะเลเตรียมนำวีดิโอดังกล่าวไปตรวจสอบว่าเป็นสัตว์ประหลาดในตำนานจริงหรือไม่
“ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเมื่อผมเห็นวัตถุสีดำยาวประมาณ 45 ฟุต เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วในน้ำ” กอร์ดอน โฮล์มส์ เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการจากชิบเลย์ เมืองยอร์กเชียร์ของอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ถ่ายวีดิโอดังกล่าวไว้ได้กล่าวอย่างตื่นเต้น
โฮล์มส์ กล่าวต่อว่า เขาคาดว่าวัตถุดังกล่าวน่าจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในตอนแรกเขาคิดว่าสิ่งที่เขาเห็นอาจเป็นปลาไหลหรือสัตว์คล้ายงูขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามเขาเชื่อว่าวัตถุดังกล่าวน่าจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดของทะเลสาบล็อกเนสในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
ขณะที่บรรดานักสังเกตการณ์เนสซี และเอเดรียน ชีน นักชีววิทยาทางทะเลจากศูนย์ล็อกเนส 2000 ในเมืองดรัมนาดรอชอิต ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบล็อกเนส ได้ดูภาพถ่ายจากวีดิโอ และกล่าวว่า จะมีการนำภาพดังกล่าวไปวิเคราะห์และสรุปว่าวัตถุที่ว่าเป็นเนสซีจริงหรือไม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“ผมมีหน้าที่ตีความในสิ่งที่ผู้คนยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในทะเลสาบล็อกเนส ผมเปิดใจกว้างในเรื่องเหล่านี้ และไม่มีข้อสงสัยเลยว่าภาพในวีดิโอนี้เป็นภาพที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา” ชีนกล่าว
อย่างไรก็ตามชีนได้กล่าวว่า “มันมีคำอธิบายมากมายที่สามารถเป็นไปได้ วัตถุดังกล่าวอาจเป็นสิ่งมีชีวิตทางชีววิทยาบางอย่าง มันอาจจะเป็นคลื่นที่เกิดขึ้นในทะเลสาบ หรืออาจจะเป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาบางอย่างที่อธิบายในเรื่องที่ว่า คนเราจะเห็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็นก็เป็นได้”
ขณะที่สื่อมวลชนในสก๊อตแลนด์ยังคงตั้งคำถามเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดในตำนาน แต่ก็ได้มีการนำภาพวีดิโอดังกล่าวไปเผยแพร่ในรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์บีบีซีซึ่งออกอากาศในสก๊อตแลนด์เมื่อวันอังคาร (29) ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ตามตำนานเล่าขานว่า บาทหลวงเซนต์โคลัมบาในสก๊อตแลนด์เป็นผู้เขียนบันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของสัตว์ประหลาดเนสซีเป็นครั้งแรกเมื่อ 1,500 ปีก่อน หลังจากนั้นได้มีผู้อ้างว่าพบเห็นเนสซีมากกว่า 4,000 คน และมีศัลยแพทย์คนหนึ่งสามารถถ่ายภาพมันไว้ได้ประมาณทศวรรษ 1930 ขณะที่บางความเชื่อถึงกับระบุว่า มันอาจเป็นไดโนเสาร์ตัวสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่
ทะเลสาบล็อกเนสเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่มากที่สุดของอังกฤษ และมีความลึกประมาณ 750 ฟุต ซึ่งเป็นความลึกที่มากกว่าทะเลเหนือ ปัจจุบันนักธุรกิจชาวสก๊อตแลนด์กลุ่มหนึ่งกำลังพยายามผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนทะเลสาบล็อกเนสเป็นมรดกโลก