xs
xsm
sm
md
lg

“กษัตริย์จิกมี” ลงนามกระชับสัมพันธ์ภูฏาน-อินเดีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งภูฏาน ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเชื่อมสัมพันธไมตรีเป็นครั้งแรกในฐานะผู้นำประเทศ ด้วยการร่วมลงพระปรมาภิไธยสนธิสัญญาสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์ ปรับความสัมพันธ์กับอินเดีย ประเทศเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่

เจ้าหน้าที่ของอินเดียระบุว่า สนธิสัญญามิตรภาพฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงเนื้อหาใหม่ หลังจากที่ได้ใช้ร่วมกันมานานถึง 57 ปี โดยสนธิสัญญาฉบับนี้จะเปิดทางให้ภูฏานมีอิสระมากขึ้นในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ

ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลนิวเดลีจะเป็นผู้ที่คอยให้คำแนะนำด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแก่ภูฏานมาโดยตลอด

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุกได้ทรงลงพระปรมาภิไธยสนธิสัญญาฉบับนี้ ร่วมกับประนาบ มุขเคอร์จี รัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดียในกรุงนิวเดลีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (8) หลังจากที่พระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับนายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์

กษัตริย์จิกมีตรัสว่า สนธิสัญญาฉบับใหม่นี้ สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันมั่นคงไม่มีเปลี่ยนแปลงระหว่างอินเดียและภูฏานอย่างแท้จริง รวมไปถึงความเป็นจริงด้านภูมิรัฐศาสตร์

ตามรายงานของสำนักข่าวเพรส ทรัสต์ของอินเดีย พระองค์ตรัสต่อว่า "สนธิสัญญาฉบับนี้จะช่วยปูทางนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับประเทศภูฏานในปี 2008" ซึ่งอาจตีความได้ถึงความคืบหน้าในการก้าวสู่ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย

นอกจากนั้น ข้อตกลงนี้ยังเปิดโอกาสให้ภูฏานสามารถนำเข้าอุปกรณ์ทางการทหารซึ่งไม่มีอานุภาพร้ายแรงจากต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องได้รับการเห็นชอบจากอินเดียก่อน

นาฟเตจ ซาร์นา โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศอินเดียกล่าวชื่นชมการลงนามสนธิสัญญามิตรภาพระหว่างอินเดีย-ภูฏานครั้งนี้ว่า ถือเป็น "ช่วงเวลาสำคัญครั้งประวัติศาสตร์"

ซาร์นาเผยต่อว่า ข้อตกลงนี้ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ในการกระชับความสัมพันธ์และสร้างเสริมสัมพันธภาพในรัชสมัยของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก

เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่า "สนธิสัญญานี้เป็นการผูกมัดทั้งสองประเทศในการประสานความร่วมมือกันในด้านต่างๆอย่างใกล้ชิด ซึ่งล้วนเกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของชาติ และยังเป็นคำสัญญาที่จะไม่ยินยอมปล่อยให้เกิดการกระทำใดๆ ในดินแดนของตน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติและผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย"

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนอินเดียเป็นเวลา 5 วันครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศได้ตกลงกำหนดเขตแดนกันได้ในเดือนธันวาคมปีก่อน หลังจากที่เจรจากันมานานถึง 45 ปี

ปัจจุบัน กษัตริย์จิกมีทรงมีพระชนมายุ 26 พรรษา และได้ทรงสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด และเพิ่งขึ้นครองราชย์ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย นัมเกล วังชุก พระราชบิดาซึ่งมีพระชนมายุ 51 พรรษา ทรงสละราชสมบัติ ท่ามกลางความตกตะลึงของประชาชน 600,000 คนในประเทศ

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย นัมเกล วังชุก เคยประกาศเอาไว้ในปี 2005 ถึงแผนการสละราชบัลลังก์และความมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนภูฏานให้กลายเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ภายในปี 2008
กำลังโหลดความคิดเห็น