เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ฮอสนิ มุบอรัก แห่งอียิปต์ ปฏิเสธข้อเรียกร้องของอิสราเอลในการให้ความร่วมมือรุกรานเลบานอน ทั้งยังตำหนิกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ทำให้ทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง ต้องเข้าสู่วิกฤตไปด้วย ขณะที่ร่างของเจ้าหน้าที่ยูเอ็นซึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลถูกค้นพบแล้ว 3 ราย
ประธานาธิบดี มุบอรัก แห่งอียิปต์ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวขณะเดินทางกลับจากสนทนากับกษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบีย ว่า “ใครก็ตามที่เรียกร้องให้อียิปต์เข้าสู่สงครามเพื่อป้องกันเลบานอน หรือกลุ่มฮิซบอลเลาะห์นั้น ไม่ทราบว่าเวลาของการผจญภัยในโลกภายนอกนั้นหมดลงแล้ว”
นอกจากนี้ เขายังได้ย้ำว่า การนำประเทศเข้าสู่สงครามเท่ากับเป็นการไม่รับผิดชอบต่อประชาชนชาวอียิปต์ 73 ล้านคน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา การบริการ หน้าที่การงาน และที่อยู่อาศัย และกองทัพอียิปต์ก็มีไว้เพื่อป้องกันประเทศอียิปต์เท่านั้น
ขณะเดียวกัน อียิปต์ก็ยังตำหนิการเสี่ยงภัยของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งลากทุกประเทศในภูมิภาคนี้เข้ามาร่วมในเหตุความขัดแย้งนี้ด้วย แม้ว่านักวิจารณ์จะกล่าวหามุบอรัก ว่า เป็นทาสของชาติตะวันตก และยกย่องการกระทำของผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ที่กล้าท้าทายอิสราเอล
ทั้งนี้ อียิปต์เป็นชาติอาหรับชาติแรกที่ลงนามในสัญญาสงบศึกกับอิสราเอลในปี 1979 และทั้งมุบอรัก และกษัตริย์อับดุลเลาะห์ ต่างก็เห็นด้วยว่าประเทศของพวกเขาต้องการให้มีการหยุดยิงทันทีในการประชุมนานาชาติเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงโรมในวันพุธ (26)
สำหรับการโจมตีทางอากาศวานนี้ (25) ของอิสราเอล ที่มีเป้าเป็นสำนักงานยูเอ็น ซึ่งอยู่ทางใต้ของเลบานอน และทำให้มีเจ้าหน้าที่ยูเอ็นเสียชีวิตถึง 4 คน ขณะนี้พบศพเจ้าหน้าที่ 3 รายแล้ว และยังคงจะพยายามค้นหาศพสุดท้ายในซากปรักหักพังต่อไป
คลิกอ่าน เกาะติดสถานการณ์ในตะวันออกกลาง 18-22 ก.ค.2549
คลิกอ่าน เกาะติดสถานการณ์ในตะวันออกกลาง 12-17 ก.ค.2549
คลิกอ่าน เกาะติดสถานการณ์ในตะวันออกกลาง 25 มิ.ย.-11 ก.ค.2549