xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้มุสลิม-ตะวันตกต่างมองอีกฝ่ายนิสัยแย่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ผลสำรวจของสถาบันวิจัยในสหรัฐฯเผย ชาวตะวันตกมองชาวมุสลิมว่าเป็นพวกหัวรุนแรง คลั่งศาสนา และไม่มีขันติธรรมเอาเสียเลย ขณะที่มุสลิมก็มองว่าชาวตะวันตกเป็นพวกไร้ศีลธรรม เห็นแก่ตัว และละโมบ

โครงการสำรวจทัศนคติทั่วโลกของสถาบันพิว รีเสิร์ช เซนเตอร์ ซึ่งได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน 14,000 คน จาก 15 ประเทศ ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม และเผยแพร่ผลสำรวจเมื่อวันพฤหัสบดี(22) ระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบกับชาวฝรั่งเศส อังกฤษ และอเมริกันแล้ว ชาวเยอรมันและสเปนมีทัศนคติแง่ลบต่อชาวมุสลิม มากกว่าชาวตะวันตกทั้งสามชาติข้างต้น

ผลโพลนี้ชี้ว่า ชาวสเปนและเยอรมัน แปดในสิบเชื่อว่ามุสลิมเป็นพวกคลั่งศาสนา ส่วนชาวฝรั่งเศส อังกฤษ และอเมริกัน ถึงแม้จะตื่นตัวกับเหตุวุ่นวายปั่นป่วนต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่แล้ว แต่ประชาชนส่วนใหญ่ในสามชาตินี้ โดยภาพรวมยังคงมีความรู้สึกแง่บวกต่อชาวมุสลิม

ทางด้านการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในประเทศมุสลิม ปรากฏว่า ผู้คนส่วนใหญ่ในเกือบทุกประเทศมองว่าชาวตะวันตกมีอุปนิสัยแย่ๆหลายอย่าง แต่ทว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในอินโดนีเซีย(ประเทศที่มีชาวมุสลิมมากสุดในโลก) จอร์แดน และไนจีเรีย ยังคงพึงพอใจคริสตศาสนิกชน

ชาวมุสลิมจะประณามชาติตะวันตกที่ดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนาอิสลาม ขณะที่ชาวอเมริกันและชาวยุโรปตะวันตกกล่าวว่าการที่พวกมุสลิมไม่มีขันติธรรม ถือเป็นเรื่องที่สมควรถูกประณามมากกว่า

สถาบันพิวกล่าวว่า ชาวมุสลิมและชาวตะวันตกเกือบทั้งหมดเชื่อว่า เหตุจลาจลประท้วงการเผยแพร่ภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามุฮัมหมัดในหนังสือพิมพ์เดนมาร์ก เหตุก่อการร้ายโจมตีมหานครลอนดอน รวมทั้งสงครามที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอิรักและอัฟกานิสถาน ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มคนต่างศาสนาทั้งสอง อยู่ในขั้นเลวร้าย ในทุกๆวันนี้

นอกจากนี้ สถาบันพิวยังรายงานอีกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในอียิปต์ อินโดนีเซีย จอร์แดน และตุรกี ไม่เชื่อว่าชาวอาหรับก่อเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐฯเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี2001 ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่สุด

ทั้งนี้ ตัวเลขอัตราส่วนชาวเติร์กที่ไม่เชื่อว่าพวกอาหรับก่อเหตุ 11 กันยา เพิ่มขึ้นจาก 43% ในปี 2002 มาอยู่ที่ 59% ในปีนี้ ขณะที่ชาวมุสลิมเชื้อสายอังกฤษ 56% มีความเห็นเช่นเดียวกับชาวเติร์ก

สำหรับข้อสังเกตอื่นๆนั้น ผลสำรวจชิ้นนี้รายงานว่า จำนวนประชาชนในจอร์แดน ปากีสถาน และอินโดนีเซีย ที่เชื่อว่าการก่อการร้ายเป็นสิ่งที่ถูกต้องหากกระทำเพื่อปกป้องศาสนาอิสลาม ได้ลดลงอย่างมาก ขณะที่ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา จำนวนประชาชนที่สนับสนุนอุซามะห์ บินลาดิน แกนนำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ก็ลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจอร์แดนซึ่งเมื่อปีที่แล้วเคยมีผู้คน60% เชื่อมั่นในตัวบินลาดิน แต่ปรากฏว่าปีนี้กลับเหลือแค่ 24 %

นอกเหนือจากประเด็นต่างๆขั้นต้นแล้ว ผลสำรวจดังกล่าวเผยอีกว่า ประชาชนมุสลิมโดยทั่วไป ยังคงมีความเชื่ออย่างยืนยงในเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับความเชื่อของพวกตะวันตกที่คนจำนวนมากสงสัยว่าประชาธิปไตยจะสามารถฝังรากผลิบานในโลกมุสลิมได้หรือ
กำลังโหลดความคิดเห็น