เอเจนซี - นายแพทย์ คุนิโอะ คิตะมูระ ผู้อำนวยการสมาคมวางแผนครอบครัวญี่ปุ่น ให้ความเห็นว่า วิธีการหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาอัตราการเกิดในแดนอาทิตย์อุทัยลดต่ำลงในปัจจุบัน ก็คือ คนญี่ปุ่นจะต้องมีเพศสัมพันธ์กันมากขึ้น
สมาคมได้จัดการสำรวจตัวอย่างผู้คนในวัย 16-49 ปี จำนวน 936 คน และพบว่า มีถึง 31% ซึ่งไม่ได้มีเซ็กซ์เลยเป็นเวลามากกว่า 1 เดือนแล้ว “โดยที่ไม่ได้มีเหตุผลพิเศษอะไร” อันเป็นอาการซึ่งรู้จักกันในนามว่า “ภาวะไร้เซ็กซ์”
อัตราการเจริญพันธุ์ (จำนวนบุตรโดยเฉลี่ยที่ผู้หญิงแต่ละคนจะมีภายในช่วงชีวิตของเธอ) ของญี่ปุ่นในปีที่แล้ว ปรากฏว่า ลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์เหลือแค่ 1.25 โดยที่นักประชากรศาสตร์คำนวณว่า ตัวเลขนี้ต้องเป็น 2.1 จึงจะสามารถทำให้จำนวนประชากรหยุดลดต่ำลงได้
นักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางสังคมจำนวนมาก กำลังเรียกร้องให้จัดทำโครงการอุดหนุนผู้ปกครองที่มีบุตร และเพิ่มสวัสดิการดูแลมารดา เพื่อจูงใจให้ชาวญี่ปุ่นมีลูกกันมากขึ้น มาตรการเหล่านี้คิตะมูระเห็นด้วยว่ามีความสำคัญ แต่ก็ย้ำว่าการแก้ไขภาวะไร้เซ็กซ์ ก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด
ทั้งนี้ ในการสำรวจที่จัดทำโดยบริษัทผู้ผลิตถุงยางอนามัย “ดูเร็กซ์” เมื่อปีที่แล้ว ญี่ปุ่นติดอันดับท้ายสุดจากการสอบถามผู้คนใน 41 ชาติ โดยคู่รักชาวญี่ปุ่นมีเพศสัมพันธ์กันเพียงแค่ปีละ 45 ครั้ง ขณะที่อัตราเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ปีละ 103 ครั้ง
คิตะมูระ มองว่า ชายชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่เป็นพวกบ้างาน อาจจะเหนื่อยล้าหมดแรงกับการงานของตนจนไม่มีพลังพอที่จะ “ทำการบ้าน” แต่ก็ยังมีคู่ครองอื่นๆ เยอะแยะ ซึ่งไม่ได้เข้าข่ายนี้ และเพียงแต่ไม่ได้มีเซ็กซ์กันเป็นปกติ
ในการสำรวจของสมาคม พบว่า ผู้ที่ตอบว่าไม่ค่อยมีเพศสัมพันธ์นั้น มี 44% กล่าวว่า พวกเขามีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามที่ “น่าเบื่อที่สุด” หรือไม่ก็ “น่าเบื่อ” คิตะมูระจึงแนะนำว่า คู่ครองทั้งหลายควรต้องพูดจากันให้เพิ่มมากขึ้น
“ลงท้ายแล้ว การมีปฏิสัมพันธ์เหล่านี้กับเพศตรงข้ามนั่นแหละ ที่จะกระตุ้นให้สัญชาตญาณของสัตว์อันหลีกเลี่ยงไม่ได้ปรากฏขึ้นมาในตัวเรา นั่นคือ การสืบพันธุ์” เขาบอก