เอเอฟพี/เอเจนซี - ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ เตือนนิวยอร์กเสี่ยงถูกเฮอริเคนถล่มอย่างรุนแรง เส้นทางและระบบคมนาคมจะถูกตัดขาด เพราะน้ำท่วม ขณะที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ซึ่งถูกเฮอริเคนแคทรีนาเข้ากระหน่ำอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว เป็นพื้นที่แรกในสหรัฐฯที่จะถูกเล่นงานในช่วงฤดูเฮอริเคนประจำปีนี้
แมกซ์ เมย์ฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งมีฐานที่เมืองไมอามี มลรัฐฟลอริดา แถลงต่อคณะกรรมการในวุฒิสภาเมื่อวานนี้ (24) ว่า นครนิวยอร์กจะถูกเฮอริเคนลูกใหญ่ถล่มแน่นอน เพียงแต่ยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยเฮอริเคนระดับ 3 ตามมาตรวัดแซฟไฟร์ซิมป์สัน จะทำให้บางพื้นที่ในนครนิวยอร์ก มีน้ำทะเลท่วมสูง 8-10 เมตร รถไฟใต้ดินถูกน้ำท่วมใช้การไม่ได้ และจะทำให้ศูนย์กลางการเงินแห่งนี้กลายเป็นอัมพาต
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า โชคดีที่เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเมืองนิวยอร์กได้เตรียมการร่วมกับสำนักงานบริหารทะเล และสภาพอากาศแห่งชาติวางแผนรับมือภัยพิบัติดังกล่าวมาร่วม 20 ปีแล้ว
ทั้งนี้ เมย์ฟิลด์ อ้างถึงเฮอริเคนเมื่อปี 1991, 1985 และ 1838 ที่กระหน่ำเขตลองไอส์แลนด์ ทางตะวันออกของย่านแมนฮัตตัน ว่า ทำให้น้ำท่วมสูง 3-4 เมตร โดยพายุเมื่อปี 1838 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 600 คน สร้างความเสียหายออย่างรุนแรงตลอดพื้นที่ชายฝั่ง
ก่อนหน้านี้ นักอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า ฤดูเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งสหรัฐฯอาจถูกเฮอริเคนใหญ่ถล่มประมาณ 4 ลูก
ด้าน ชัค วัตสัน นักวิจัยจากซาวันนาห์ บริษัทประเมินความเสี่ยงในมลรัฐจอร์เจีย ระบุว่า เมืองนิวออร์ลีนส์ ในมลรัฐหลุยส์เซียนา เป็นเป้าหมายอันดับแรกในสหรัฐฯที่จะโดนฤทธิ์ฤดูเฮอริเคนประจำปี 2006 เข้าเล่นงาน โดยจากการศึกษาพบว่า มีความเป็นไปได้ถึง 30% ที่จะโดนเฮอริเคนถล่ม และมีโอกาส 1 ใน 10 ที่พายุดังกล่าวจะมีความรุนแรงในระดับ 3 หรือมากกว่า ซึ่งหมายความว่า ความเร็วลมอย่างน้อย 111 ไมล์/ชั่วโมง (178กิโลเมตร/ชั่วโมง)
วัตสัน ซึ่งร่วมงานกับศาสตราจารย์ด้านสถิติจากยูนิเวอร์ซิตี้ออฟเซ็นทรัลฟลอริดา ยังคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกจะได้รับผลกระทบอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ส่งผลต่อการผลิตน้ำมัน 7-8 ล้านบาร์เรล
เมื่อปีที่แล้ว การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ต้องหยุดการผลิตไป ถึง 25% และจนถึงขณะนี้ยังต้องปิดตัวถึง 20%