สวีเดนเพิ่มข้อเสนอล่อ ทอ.ซื้อเครื่องบินรบแข่งกับรัสเซีย

ไทยเดย์ - รัฐบาลสวีเดน ประกาศเพิ่มข้อเสนอให้กองทัพอากาศไทย เพื่อล่อใจซื้อเครื่องบินขับไล่ฝูงใหม่ พร้อมยอมตกลงแลกเปลี่ยนกับสินค้าเกษตรแบบ 100 เปอร์เซนต์ ไม่เว้นแม้แต่ไก่ ซึ่งปัจจุบันอียูห้ามนำเข้าจากประเทศไทย

นายลาร์ส ดาเนียลสัน รัฐมนตรีช่วยว่าการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสวีเดน แถลงระหว่างเดินทางเยือนกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) ว่า กรุงสตอกโฮล์มได้ปรับเพิ่มข้อเสนอให้กับกองทัพอากาศไทย ด้วยการมอบเทคโนโลยี การฝึกอบรม ตลอดจนเรดาร์ และขีปนาวุธจากอากาศสู่พื้นดิน เพื่อเป็นของแถม หากไทยตัดสินใจซื้อเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน แจส-39 ซี/ดี จำนวน 12 ลำ จากสวีเดน

ทั้งนี้ สวีเดนเป็นหนึ่งในสามประเทศที่พยายามแข่งขันเพื่อทำสัญญาขายเครื่องบินรบให้กับไทย โดยคู่แข่งอีก 2 ราย คือ เครื่องบินขับไล่รุ่นเอฟ-18 และเอฟ-16 ซี/ดีของสหรัฐ และซู-30 เอ็มเค ของรัสเซีย

การตัดสินใจเพิ่มข้อเสนอครั้งนี้ของสวีเดนมีขึ้น หลังสหรัฐ และรัสเซีย ได้ปรับเพิ่มผลประโยชน์ล่อใจทางการไทยไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยบริษัท ลอกฮีด มาร์ติน ของสหรัฐ ประกาศจะช่วยอัพเกรดฝูงบินเอฟ-16 รุ่นเก่าให้กับกองทัพอากาศ ส่วนบริษัท เออร์คุต ของรัสเซีย ตกลงจะแถมเฮลิคอปเตอร์รุ่น เอ็มไอ-17 อีกหลายลำพ่วงมากับเครื่องบินรบของตน

สำหรับข้อเสนอล่าสุดของสวีเดน ยังประกอบด้วยการงดเว้นดอกเบี้ยนาน 10 ปี พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์ทำฝนเทียม และทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้กับนักเรียนไทย 200 คน

นายดาเนียลสัน ยังกล่าวว่า สวีเดนยอมตกลงทำบาร์เตอร์เทรด แลกเปลี่ยนเครื่องบินรบกับสินค้าเกษตรของไทยแบบเต็มราคา ในจำนวนนี้ไม่เว้นแม้กระทั่งไก่ ซึ่งทางสหภาพยุโรป (อียู) ห้ามนำเข้าจากไทย เนื่องจากปัญหาไข้หวัดนก โดยเขากล่าวว่า "หากรวมเอาไก่ไว้ในข้อตกลง มันอาจไม่จำเป็นต้องส่งเข้ามาในตลาดอียู ของเหล่านี้จะถูกนำไปขายในตลาดโลก"

นายดาเนียลสัน ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนเอเชีย เพื่อขอเสียงสนับสนุนการปฏิรูปยูเอ็น ยังเผยต่อไปว่า เครื่องบินรบที่สวีเดนเสนอขายให้กับไทย จัดเป็นอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในภูมิภาค

โดยแหล่งข่าวซึ่งใกล้ชิดกับการทำข้อตกลงครั้งนี้ บอกว่า เทคโนโลยีกริพเพนของสวีเดน ยังสามารถใช้อัพเกรดเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ของกองทัพไทย ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 50 ลำ พร้อมกับเผยว่า เครื่องบินรบรัสเซียกินน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าแจส-39 ซี/ดี ของสวีเดน 3 เท่า

อนึ่ง นายดาเนียลสัน ยังกล่าวถึงประเด็นที่นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ประกาศเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นคนต่อไปว่า ขณะนี้ทางสวีเดนยังไม่ตัดสินใจสนับสนุนใครจนกว่าจะถึงปลายปีนี้