xs
xsm
sm
md
lg

สึนามิทำให้ชาวสวีเดนรู้สึกผูกพันกับเมืองไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี-ชาวสวีเดนจำนวนมาก รู้สึกมีความผูกพันเป็นพิเศษกับประเทศไทยไปตลอดชีวิต ขณะที่บาดแผลทางจิตใจของพวกเขาค่อยๆ ฟื้นตัวจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ซึ่งได้สังหารผู้คนของประเทศนี้ ไปมากกว่าของชาติตะวันตกใดๆ

มีชาวสวีเดนราว 20,000 คนกำลังพักผ่อนท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทย ตอนที่มหาภัยพิบัติโถมใส่ในเช้าวันที่ 26 ธันวาคม 2004 และคร่าชีวิตชาวประเทศแถบสแกนดิเนเวียแห่งนี้ไป 543 คน

มาเรีย สเวอร์ด อยู่ที่ชายหาดของจังหวัดกระบี่ พร้อมสมาชิก 10 คนในครอบครัว ตอนที่เธอเห็นน้ำทะเลลดถอยไปผิดปกติ ก่อนหวนคืนมาในอีกไม่กี่อึดใจเป็นกำแพงคลื่นคลั่งเหี้ยมโหด

ภาพของ คาริน น้องสาวของเธอผู้วิ่งเข้าหาคลื่นยักษ์เพื่อเตือนภัยเด็กๆ ถูกนำออกฉายทั่วโลก ในฐานะตัวอย่างความกล้าหาญของมารดาแม้เมื่อต้องประจันหน้ากับมหันตราย และทุกๆ คนในครอบครัวก็รอดตายมาได้หมด

มาเรียเล่าว่า "ความทรงจำถึงอำนาจอันมหาศาลของคลื่นน้ำ" ยังคงเฝ้าหลอกหลอนเธออยู่เรื่อยๆ

แรกทีเดียวเธอมุ่งความสนใจไปที่การช่วยเหลือเยียวยาจิตใจของลูกๆ ของเธอ แต่แล้วเธอก็รู้สึกในทันใดว่าตัวเธอเองก็มีความเครียดอันหนักอึ้ง นั่นเป็นตอนที่เธอตัดสินใจว่าเธอจะต้องกลับไปในวันใดวันหนึ่ง

"ฉันคิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้เกิดความก้าวหน้า" เธอบอก "ไปเผชิญหน้ากับชายหาดอีกครั้ง ไปว่ายน้ำ ไปสู้กับความกลัวของฉัน"

แม้ยังคงช็อกและโศกเศร้า แต่ก็มีชาวสวีเดนบางคนเลือกที่จะยืดเวลาอยู่เมืองไทยต่อภายหลังสึนามิ เพื่อให้ความช่วยเหลือที่จะทำได้ และชาวสวีเดนจำนวนมากก็วางแผนกลับคืนสู่ชายหาดของไทยอีกครั้ง เพื่อขับไล่ผีร้ายซึ่งตามหลอนพวกเขามาตลอด 1 ปี

คาดหมายกันว่า ผู้รอดชีวิตและญาติมิตรจำนวนหลายร้อยคนจะเดินทางมาไทย ในวาระครบรอบ 1 ปีของธรณีพิบัติภัยคราวนี้ และอีกจำนวนมากบอกว่า จะต้องกลับมารำลึกทบทวนที่เมืองไทยอีกเรื่อยๆ ไปตลอดชั่วชีวิต

"เวลานี้เราทั้งหมดต่างกำลังจะกลับไปประเทศไทย ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องดี เพราะเราจะได้เห็นว่ามีสิ่งที่เป็นด้านบวกอยู่เช่นกัน ว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ว่าพวกเขากำลังปรับตัวได้ และดังนั้น ฉันก็น่าจะปรับตัวได้เช่นกัน" เป็นถ้อยคำของ โยฮันนา ผู้รอดชีวิตจากสึนามิวัย 15 ปี

ความคิดของโยฮันนา รวบรวมเอาไว้ในนิทรรศการว่าด้วยสึนามิ ซึ่งกำหนดเปิดการแสดงที่กรุงสต็อกโฮล์มในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ โดยมีเนื้อหาเป็นรายงานว่าด้วยเด็กๆ ชาวสวีเดนและชาวเอเชีย

เด็กๆ และผู้ใหญ่จำนวนมากที่รอดชีวิตจากคลื่นยักษ์หรือต้องสูญเสียญาติมิตรที่รักไป ต่างก็รู้สึกเช่นกันว่าจำเป็นเหลือเกินที่จะต้องชุมนุมพบปะที่แดนสวีเดนบ้านเกิด กับคนอื่นๆ ซึ่งกำลังเผชิญประสบการณ์ทำนองเดียวกัน

ทุกๆ 2 สัปดาห์ ล็อตตา โพลเฟลต์ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์แห่งองค์การการกุศล เซฟ เดอะ ชิลด์เรน สาขาสวีเดน พร้อมกับนักจิตวิทยาอีกผู้หนึ่ง จะจัดชุมนุมเด็กๆ ซึ่งเสียพ่อแม่จากเหตุสึนามิถล่ม

โพลเฟลต์เล่าคำพูดของเด็กหญิงคนหนึ่งที่พูดกับกลุ่มเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เวลานี้เธอรู้สึกย่ำแย่กว่าช่วงหลังเกิดสึนามิใหม่ๆ เพราะตอนแรกๆ นั้นเธออยู่ในภาวะช็อก แต่ตอนนี้เธอตระหนักแล้วว่า เธอจะต้องรู้สึกแบบนี้ไปจนตลอดชีวิต

ถึงแม้พวกเขายังคงรู้สึกเจ็บปวด แต่ชาวสวีเดนดูไม่ได้หวาดเกรงอะไรเกี่ยวกับเมืองไทย และนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมุ่งสู่แดนสยามดูจะกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นด้วยซ้ำ

จำนวนชาวสวีเดนที่ไปท่องเที่ยวในไทยลดฮวบลงในช่วงหลายเดือนภายหลังภัยพิบัติ แต่ถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ จำนวนคนเดินทางไปกรุงเทพฯ ก็เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 19% และยังขยับขึ้นมามากกว่า 6% เมื่อถึงเดือนตุลาคม

ชาวสวีเดนจำนวนมากต่างรู้สึกขอบคุณสำหรับความเอื้ออารีและความสมานฉันท์ที่คนไทยแสดงออกมาให้เห็น "และต้องการสนับสนุนพวกเขา" มารินา เลฟเอร์ต กล่าว เธอเป็นผู้บริหารบริษัททัวร์ซึ่งชำนาญเป็นพิเศษในการจัดทริปไปประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น