โดย ปารีส – การที่ฝรั่งเศสต่อต้านคัดค้านนโยบายปฏิรูปการเกษตรของยุโรป กำลังเป็นอุปสรรคสำหรับองค์การค้าโลก (World Trade Organization-WTO) ที่กำลังประชุมกันอยู่ในฮ่องกงในสัปดาห์นี้
การที่ฝรั่งเศสไม่ยอมเห็นคล้อยตามสหภาพยุโรป (EU) ที่ต้องการลดเงินอุดหนุนเกษตรกร ตามนโยบายเกษตรรวม (common agricultural policy-CAP) ก็เป็นกระดูกชิ้นโตในการพิจาณางบประมาณของอียู ในสัปดาห์นี้อีกเช่นกัน
ตามที่กำหนดในนโยบาย CAP (ถึงนโยบายนี้จะมีการปฏิรูปหลายด้าน) แต่ชาวนาฝรั่งเศสทั้งประเทศก็ยังได้รับเงินอุดหนุน ราว 1 ใน 5 ของเงิน US$52 พันล้านเหรียญ ที่อียูต้องจ่ายเป็นประจำทุก ๆ ปี ให้ชาวนาทั้งหมดของตน เงินอุดหนุนพวกนี้คิดเป็น 40% ของงบประมาณทั้งหมดของอียู
ในการประชุมที่ฮ่องกงในสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีพาณิชย์องค์การค้าโลกตั้งเป้าที่จะเปิดเสรีการค้าสินค้าการเกษตร การเข้าถึงตลาดนอกภาคการเกษตร (non-agricultural market access-NAMA) และบริการ แต่ความสำเร็จของที่ประชุมดังกล่าว ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของประเทศรวยสุด ๆ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอียูและสหรัฐ ที่จะลดเงินอุดหนุนเกษตรกรของพวกตน เปิดตลาดสินค้าและบริการภาคเกษตร ให้ประเทศกำลังพัฒนาได้เข้าไปค้าขาย
ทั้ง ๆ ที่มีอียูอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษทำการกดดัน แต่ผู้นำฝรั่งเศสก็ยังออกมายืนกรานหลายวันติดกันว่า ตนจะไม่ยอมให้อียูตัดเงินอุดหนุนชาวนาของตน และจะไม่ยอมให้อียูลดกำแพงภาษีให้สินค้าการเกษตรจากภายนอกโดยเด็ดขาด
โดมินิก บัสเซอโร รัฐมนตรีเกษตรฝรั่งเศสเขียนวิจารณ์ลงในหนังสือพิมพ์ธุรกิจ Les Echos ที่ออกในฝรั่งเศสว่า “CAP เป็นนโยบายที่มีความสำคัญระดับยุทธศาสตร์ของยุโรป ความสำคัญของมันพ้นขอบเขตภาคเกษตรไปแล้ว”
“พวกวิจารณ์นโยบาย CAP ยังแสร้งคิดไปว่า ฝรั่งเศสคัดค้านเรื่องนี้เพียงเพื่อผลการเลือกตั้ง และว่าการให้เงินอุดหนุนชาวนาไม่ชอบธรรมและเป็นอันตรายนั้น ความคิดแบบนี้ผิดครับ” เขาบอก “ฝรั่งเศสจะพยายามให้แน่ใจว่า ... ผลลัพธ์ในที่ประชุมองค์การค้าโลกจะต้องสอดคล้องกับ CAP ทุกประการ”
ฝรั่งเศสยังจะไม่ยอมตามข้อเสนอของปีเตอร์ แมนเดลสัน ข้าหลวงทางการค้าอียู ที่เสนอให้อียูตัดงบ ฯ ช่วยเหลือชาวนาลง 70% และลดกำแพงภาษีให้สินค้าเกษตรนำเข้าลงครึ่งหนึ่ง คือจาก 22.8% ในปัจจุบัน ให้ลงมาที่ 12.2%
ผู้นำฝรั่งเศสเคยพยายามหันเหความสนใจของผู้คนมาแล้ว ในที่ประชุมสุดยอดฝรั่งเศส-แอฟริกัน ครั้งที่ 23 ที่กรุงบาโกโม่ ประเทศมาลี เมื่อวันที่3-4 ธันวาคมนี้ ประธานาธิบดี จ๊ากค์ส ชีรักของฝรั่งเศส ขอร้องรัฐบาลสหรัฐ “อย่างขึงขัง” ให้ช่วย “เลิกให้เงินอุดหนุนผู้ปลูกฝ้ายในสหรัฐเสียที เพราะว่าอียูสัญญาว่าจะทำแบบนั้นอยู่”
นักวิจารณ์ฝรั่งเศสก็ออกมาสนับสนุนผู้นำของตน โดยยืนกรานว่าจะคัดค้านการปฏิรูปตลาดการเกษตรทั้งหมด
เจราร์ด เลอ ปูอี ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้า ประจำหนังสือพิมพ์ฝ่ายซ้าย L'Humanite กล่าวกับสำนักข่าว Inter Press Service ของเราว่า “ข้อเสนอขององค์การค้าโลกเกี่ยวกับภาคเกษตร ไม่สร้างสรรค์สุด ๆ เลยครับ นโยบายการเกษตรแบบยั่งยืน ต้องนำเอาปัจจัยทั้งทางเศรษฐกิจ การเกษตร และสภาพแวดล้อมมาผสมผสานกัน แต่องค์การค้าโลกมองจากแง่เศรษฐกิจเท่านั้น นอกจากนั้น ยังเชื่อผิด ๆ ว่าการแข่งขันเป็นแก้วสารพัดนึกด้านสวัสดิการสังคม”
เขากล่าวว่า การคัดค้าน CAP ในองค์การค้าโลก จะนำไปสู่การทำลายป่าไม้ การปลูกพืชเพื่อการค้า (monocultures) และการบิดเบือนระบบชลประทาน การใช้สารเคมีและยาปราบศัตรูพืชอย่างแพร่หลาย
ฝ่ายอีริค เลอ บูเช่ ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์ Le Monde ก็มีความคิดคล้าย ๆ กันนี้ หลังจากบอกว่าฝรั่งเศสกำลังปกป้องเงินอุดหนุนชาวนาอย่างค่อนข้าง “เครียด” เขาก็เขียนว่าการปกป้องเกษตรกรรมแบบนี้ชอบธรรมแล้ว “การเกษตรต้องไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดินให้เป็นทะเลทราย ความมั่นคงด้านอาหารต้องถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดทางการเมือง อาหารแบบแดกด่วนจะทำลายเสถียรภาพทางการเกษตรของเหล่าประเทศที่ยากจน”
แต่ผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ บางคนกลับวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของรัฐบาล ชอง-กาเบรียล เฟรเด นักวิจารณ์ชั้นนำประจำนิตยสารรายสัปดาห์ Le Nouvel Observateur กล่าวว่า นโยบายดื้อด้านทางการเกษตรของฝรั่งเศส ต้องอาศัยแรงงานการผลิตจำนวนมาก ๆ และความหวาดกลัวตลาดเสรี “เป็นจำเลยที่ผู้วิพากษ์วิจารณ์ของเรา (ในองค์การค้าโลก) ถือเป็นเป้า”
เขากล่าวว่า ตอนนี้ฝรั่งเศสกำลัง “ทำสงครามครั้งสุดท้ายของตัว” เพื่อปกป้องเงินอุดหนุนชาวนา
ชาร์ล ครอว์เฟิร์ด เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำโปแลนด์ เปรยถึงเงินอุดหนุนพวกนี้ แล้วเกิดรั่วออกไปทางอินเตอร์เนท ว่ามันเป็น “นโยบายอุดหนุนโดยรัฐ ที่ไร้ศีลธรรมและบัดซบที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ ของพวกคอมมิวนิสต์โดยแท้”
(Inter Press Service)
การที่ฝรั่งเศสไม่ยอมเห็นคล้อยตามสหภาพยุโรป (EU) ที่ต้องการลดเงินอุดหนุนเกษตรกร ตามนโยบายเกษตรรวม (common agricultural policy-CAP) ก็เป็นกระดูกชิ้นโตในการพิจาณางบประมาณของอียู ในสัปดาห์นี้อีกเช่นกัน
ตามที่กำหนดในนโยบาย CAP (ถึงนโยบายนี้จะมีการปฏิรูปหลายด้าน) แต่ชาวนาฝรั่งเศสทั้งประเทศก็ยังได้รับเงินอุดหนุน ราว 1 ใน 5 ของเงิน US$52 พันล้านเหรียญ ที่อียูต้องจ่ายเป็นประจำทุก ๆ ปี ให้ชาวนาทั้งหมดของตน เงินอุดหนุนพวกนี้คิดเป็น 40% ของงบประมาณทั้งหมดของอียู
ในการประชุมที่ฮ่องกงในสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีพาณิชย์องค์การค้าโลกตั้งเป้าที่จะเปิดเสรีการค้าสินค้าการเกษตร การเข้าถึงตลาดนอกภาคการเกษตร (non-agricultural market access-NAMA) และบริการ แต่ความสำเร็จของที่ประชุมดังกล่าว ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของประเทศรวยสุด ๆ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอียูและสหรัฐ ที่จะลดเงินอุดหนุนเกษตรกรของพวกตน เปิดตลาดสินค้าและบริการภาคเกษตร ให้ประเทศกำลังพัฒนาได้เข้าไปค้าขาย
ทั้ง ๆ ที่มีอียูอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษทำการกดดัน แต่ผู้นำฝรั่งเศสก็ยังออกมายืนกรานหลายวันติดกันว่า ตนจะไม่ยอมให้อียูตัดเงินอุดหนุนชาวนาของตน และจะไม่ยอมให้อียูลดกำแพงภาษีให้สินค้าการเกษตรจากภายนอกโดยเด็ดขาด
โดมินิก บัสเซอโร รัฐมนตรีเกษตรฝรั่งเศสเขียนวิจารณ์ลงในหนังสือพิมพ์ธุรกิจ Les Echos ที่ออกในฝรั่งเศสว่า “CAP เป็นนโยบายที่มีความสำคัญระดับยุทธศาสตร์ของยุโรป ความสำคัญของมันพ้นขอบเขตภาคเกษตรไปแล้ว”
“พวกวิจารณ์นโยบาย CAP ยังแสร้งคิดไปว่า ฝรั่งเศสคัดค้านเรื่องนี้เพียงเพื่อผลการเลือกตั้ง และว่าการให้เงินอุดหนุนชาวนาไม่ชอบธรรมและเป็นอันตรายนั้น ความคิดแบบนี้ผิดครับ” เขาบอก “ฝรั่งเศสจะพยายามให้แน่ใจว่า ... ผลลัพธ์ในที่ประชุมองค์การค้าโลกจะต้องสอดคล้องกับ CAP ทุกประการ”
ฝรั่งเศสยังจะไม่ยอมตามข้อเสนอของปีเตอร์ แมนเดลสัน ข้าหลวงทางการค้าอียู ที่เสนอให้อียูตัดงบ ฯ ช่วยเหลือชาวนาลง 70% และลดกำแพงภาษีให้สินค้าเกษตรนำเข้าลงครึ่งหนึ่ง คือจาก 22.8% ในปัจจุบัน ให้ลงมาที่ 12.2%
ผู้นำฝรั่งเศสเคยพยายามหันเหความสนใจของผู้คนมาแล้ว ในที่ประชุมสุดยอดฝรั่งเศส-แอฟริกัน ครั้งที่ 23 ที่กรุงบาโกโม่ ประเทศมาลี เมื่อวันที่3-4 ธันวาคมนี้ ประธานาธิบดี จ๊ากค์ส ชีรักของฝรั่งเศส ขอร้องรัฐบาลสหรัฐ “อย่างขึงขัง” ให้ช่วย “เลิกให้เงินอุดหนุนผู้ปลูกฝ้ายในสหรัฐเสียที เพราะว่าอียูสัญญาว่าจะทำแบบนั้นอยู่”
นักวิจารณ์ฝรั่งเศสก็ออกมาสนับสนุนผู้นำของตน โดยยืนกรานว่าจะคัดค้านการปฏิรูปตลาดการเกษตรทั้งหมด
เจราร์ด เลอ ปูอี ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้า ประจำหนังสือพิมพ์ฝ่ายซ้าย L'Humanite กล่าวกับสำนักข่าว Inter Press Service ของเราว่า “ข้อเสนอขององค์การค้าโลกเกี่ยวกับภาคเกษตร ไม่สร้างสรรค์สุด ๆ เลยครับ นโยบายการเกษตรแบบยั่งยืน ต้องนำเอาปัจจัยทั้งทางเศรษฐกิจ การเกษตร และสภาพแวดล้อมมาผสมผสานกัน แต่องค์การค้าโลกมองจากแง่เศรษฐกิจเท่านั้น นอกจากนั้น ยังเชื่อผิด ๆ ว่าการแข่งขันเป็นแก้วสารพัดนึกด้านสวัสดิการสังคม”
เขากล่าวว่า การคัดค้าน CAP ในองค์การค้าโลก จะนำไปสู่การทำลายป่าไม้ การปลูกพืชเพื่อการค้า (monocultures) และการบิดเบือนระบบชลประทาน การใช้สารเคมีและยาปราบศัตรูพืชอย่างแพร่หลาย
ฝ่ายอีริค เลอ บูเช่ ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์ Le Monde ก็มีความคิดคล้าย ๆ กันนี้ หลังจากบอกว่าฝรั่งเศสกำลังปกป้องเงินอุดหนุนชาวนาอย่างค่อนข้าง “เครียด” เขาก็เขียนว่าการปกป้องเกษตรกรรมแบบนี้ชอบธรรมแล้ว “การเกษตรต้องไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดินให้เป็นทะเลทราย ความมั่นคงด้านอาหารต้องถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดทางการเมือง อาหารแบบแดกด่วนจะทำลายเสถียรภาพทางการเกษตรของเหล่าประเทศที่ยากจน”
แต่ผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ บางคนกลับวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของรัฐบาล ชอง-กาเบรียล เฟรเด นักวิจารณ์ชั้นนำประจำนิตยสารรายสัปดาห์ Le Nouvel Observateur กล่าวว่า นโยบายดื้อด้านทางการเกษตรของฝรั่งเศส ต้องอาศัยแรงงานการผลิตจำนวนมาก ๆ และความหวาดกลัวตลาดเสรี “เป็นจำเลยที่ผู้วิพากษ์วิจารณ์ของเรา (ในองค์การค้าโลก) ถือเป็นเป้า”
เขากล่าวว่า ตอนนี้ฝรั่งเศสกำลัง “ทำสงครามครั้งสุดท้ายของตัว” เพื่อปกป้องเงินอุดหนุนชาวนา
ชาร์ล ครอว์เฟิร์ด เอกอัคราชทูตอังกฤษประจำโปแลนด์ เปรยถึงเงินอุดหนุนพวกนี้ แล้วเกิดรั่วออกไปทางอินเตอร์เนท ว่ามันเป็น “นโยบายอุดหนุนโดยรัฐ ที่ไร้ศีลธรรมและบัดซบที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ ของพวกคอมมิวนิสต์โดยแท้”
(Inter Press Service)