รอยเตอร์ / เอเอฟพี - แหล่งข่าวซึ่งใกล้ชิดกับคณะผู้พิพากษาศาลพิเศษในอิรักเปิดเผยว่า การพิจารณาคดีซัดดัม ฮุสเซน จะเริ่มต้นตามกำหนดเดิมคือ ในวันที่ 19 ตุลาคม แต่อาจมีการเลื่อนวันไต่สวนออกไปหลายสัปดาห์หลังศาลเปิดว่าความเพียง 1-2 วัน
"ผมขอเรียกมันว่ากระบวนการที่ต่อเนื่องยาวนาน" แหล่งข่าวซึ่งปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อ กล่าวถึงกระบวนการพิจารณาคดีซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำอิรัก พร้อมด้วยคนสนิทอีก 7 คน ในข้อหาสังหารหมู่ชาวชีอะห์ 143 ศพ ณ หมู่บ้านดูญาอิล ทางทิศเหนือของกรุงแบกแดด เมื่อปี 1982
แหล่งข่าวระบุว่า บรรยากาศวันแรกของการพิจารณาคดี หรือบางทีอาจรวมถึงอีกหนึ่งวันถัดไป ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การโต้เถียงทางกฎหมายระหว่างอัยการ กับผู้พิพากษา ในจำนวนนี้อาจรวมถึงการโต้แย้งจากทนายฝ่ายจำเลย ซึ่งเคยออกมาประกาศขอเวลาเตรียมตัวเพื่อต่อสู้คดีเพิ่มเติม
นอกจากนั้น เขาเผยว่าในการนั่งบัลลังก์วันแรก ศาลยังอาจใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการแจ้งกฎระเบียบ ตรวจสอบรายชื่อจำเลย และอ่านข้อกล่าวหาให้กับฝ่ายผู้ถูกฟ้องร้องได้รับทราบอีกครั้ง
"ทนายฝ่ายจำเลยอาจมีการอ้างเหตุผลเพื่อขอดูเอกสารเพิ่มเติม" จากอัยการ ขณะที่ซัดดัม และพรรคพวก "อาจเพียงแค่รายงานตัว" โดยยังไม่ต้องเผชิญกับการไต่สวนใดๆ แหล่งข่าวระบุ พร้อมกับเผยว่า ศาลอาจตัดสินใจเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปหลายสัปดาห์ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความพร้อมมากยิ่งขึ้น
คำพูดนี้มีขึ้นหลังเกิดกระแสข่าวหนาหูจากบรรดาแหล่งข่าวซึ่งใกล้ชิดกับศาลพิเศษอิรักว่า การสอบปากคำพยาน และผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวแบบครอบคลุมทั่วถึง อาจยังต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์
เจ้าหน้าที่อาวุโสจากอังกฤษผู้หนึ่ง ซึ่งเดินทางมาช่วยทนายชาวอิรักเตรียมตัวว่าความคดีนี้ กล่าวว่า "การส่งกำลังบำรุงทางกายภาพ" จำนวนมากเพื่อการพิจารณาคดีดังกล่าว ยังคงไม่มีความพร้อมสำหรับการเปิดศาลไต่สวนในวันที่ 19 ตุลาคม
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ศาลพิเศษอิรักออกมาแถลงยืนยันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การพิจารณาคดีซัดดัมจะเริ่มขึ้นตามกำหนดเดิมอย่างแน่นอน ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า หลายส่วนของห้องสำหรับใช้ไต่สวน ภายในอดีตทำเนียบประธานาธิบดีของซัดดัม ได้ถูกก่อสร้างขึ้นใหม่
ถึงกระนั้น การติดตั้งกล้องโทรทัศน์เพื่อถ่ายทอดสดการพิจารณาคดีประวัติศาสตร์ครั้งนี้ อาจเสร็จไม่ทันวันเปิดศาลว่าความในสัปดาห์หน้า เนื่องจากประเด็นที่ว่า จะมีการเปิดเผยโฉมหน้าคณะผู้พิพากษาทั้ง 5 คนต่อชาวโลกหรือไม่ ยังไม่มีการชี้ขาด หลังผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมากหวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัยส่วนตัว