เอเอฟพี - อดีตผู้เชี่ยวชาญซีไอเอระบุ อุซามะห์ บินลาดิน มอบอำนาจบัญชาการเครือข่ายอัลกออิดะห์ให้มือขวาดูแลชั่วคราว เพื่อปลีกตัวเตรียมการโจมตีสหรัฐฯครั้งใหม่ และจะกลับมาเผยโฉมต่อชาวโลกอีกครั้ง หลังภารกิจสำเร็จลุล่วง
"ทันทีที่เขาโจมตีพวกเราในสหรัฐฯอีกครั้ง เราจะได้รู้เห็นว่า เขามีความสำคัญต่อโลกอิสลามเพียงใด" ไมเคิล ชูเออร์ อดีตหัวหน้าหน่วยไล่ล่าบินลาดิน ประจำสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ของแดนลุงแซม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5)
ชูเออร์ ซึ่งพยายามแกะรอยผู้นำอัลกออิดะห์มาร่วม 2 ทศวรรษ กล่าวว่า บินลาดินยังคงมีอำนาจ แม้ปัจจุบันจะไม่มีข่าวคราวใดๆเกี่ยวกับตัวเขาออกมา ขณะเดียวกันอดีตซีไอเอคนนี้ยังไม่สนใจรายงานที่ว่า บินลาดินกำลังถูกโดดเดี่ยว และไม่สามารถสื่อสารกับโลกภายนอกอันเนื่องมาจากการตามล่าอย่างหนักหน่วงของสหรัฐฯ
"เราเข้าใจผิดคิดว่าความเงียบคือชัยชนะ หรือการตัดความสำคัญ อันที่จริงความเงียบทุกอย่างคือความไม่เงียบ" ชูเออร์เตือนหลังมักออกมาวิจารณ์นโยบายต่อต้านการก่อการร้ายของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช อย่างรุนแรง นับตั้งแต่ลาออกจากซีไอเอ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
เขาบอกว่า ไอมาน อัลซาวาห์รี สมุนมือขวาของบินลาดิน ซึ่งปรากฏตัวในวิดีโอที่ออกอากาศ 10 วัน ก่อนครบรอบ 4 ปีเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 ดูเหมือนได้เข้ามารับหน้าที่หัวหน้าอัลกออิดะห์ชั่วคราว เพื่อปล่อยให้บินลาดิน ปลีกตัวไปเตรียมแผนการโจมตีสหรัฐฯครั้งใหม่
ทั้งนี้ บินลาดินปรากฏตัวในวิดีโอหนล่าสุดย้อนหลังไปหนึ่งวันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นหัวหน้าอัลกออิดะห์ ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นผู้สั่งการก่อวินาศกรรม 11 กันยาฯ
ต่อคำถามที่ว่า เขาคิดว่าทำไมบินลาดินจึงไม่ปรากฏกายนับตั้งแต่นั้นอีกเลย ชูเออร์ตอบว่า "ผมไม่คิดว่าพวกเราจะได้ยินเสียงของเขาอีกจนกว่า เขาจะโจมตีเราอีกครั้ง"
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนที่ผ่านมา กองทัพปากีสถานระบุว่า บินลาดินกำลังถูกโดดเดี่ยว เนื่องจากเครือข่ายการสื่อสารของเขาถูกทำลาย พร้อมทั้งอ้างการสอบสวนผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกคนสำคัญของอัลกออิดะห์รายหนึ่งว่า บินลาดินติดต่อกับโลกภายนอกโดยใช้คนนำสารเดินเท้า หรือขี่ม้า แทนการใช้โทรศัพท์ผ่านดาวเทียม หรืออินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันการสะกดรอย
ถึงกระนั้น ชูเออร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์พิเศษด้านความมั่นคงศึกษา ที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ เชื่อว่า สหรัฐฯยังไม่อาจทำลายความสามารถในการโจมตีของอัลกออิดะห์ลงได้
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน เขากล่าวในงานอภิปรายซึ่งจัดโดยศูนย์เพื่อความก้าวหน้าของอเมริกาว่า อัลกออิดะห์จะยังคงไม่ล่มสลายแม้ปราศจากบินลาดิน "ผู้ซึ่งมีความผสมผสานอย่างโดดเด่นระหว่างนักเทววิทยาในศตวรรษที่ 12 กับซีอีโอ ของศตวรรษที่ 21"
อย่างไรก็ดี เออร์เซล ไอดินลี อดีตผู้เชี่ยวชาญต่อต้านการก่อการร้ายของตุรกี มองว่า บินลาดินล้มเหลวในการระดมเสียงสนับสนุนจากชาวมุสลิมเพื่อเข้าร่วมการญิฮัด พร้อมกับอ้างผลวิจัยภาคสนามในฤดูร้อนที่ผ่านมาว่า ชุมชนมุสลิมในตะวันออกกลาง และยุโรป ยังคงถกเถียงกันอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับบทบาทของบินลาดินว่า เอื้อหรือทำลายผลประโยชน์ของโลกอิสลามกันแน่