การ์เดียน – หลังจากที่เฮอริเคนแคทรีนาพัดเข้าถล่มสหรัฐฯ ก็มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า เหล่าโลมาติดอาวุธซึ่งได้รับการฝึกจากกองทัพสหรัฐฯ ให้ยิงผู้ก่อการร้าย และระบุตำแหน่งของสายลับใต้น้ำนั้น อาจจะหายตัวไปในอ่าวเม็กซิโก
บรรดาผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้ศึกษาโครงการฝึกสัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนมของกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่า โลมา 36 ตัวซึ่งอาจจะมีปืนติดลูกดอกอาบยาพิษติดตัวได้หลุดออกจากสถานที่ฝึกลงไปในทะเล หลังจากที่พายุพัดเข้าถล่ม อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพเรือของสหรัฐฯได้ยอมรับว่า มีการฝึกโลมาดังกล่าวจริง แต่ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า มีโลมาหายไปหรือไม่
โดยมีการฝึกโลมาในภารกิจโจมตีและสังหารนั้น มีมาตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น ซึ่งโลมาปากขวดในมหาสมุทรแอตแลนติกของสหรัฐฯถูกนำไปฝึก ให้ยิงผู้ก่อการร้ายที่กำลังโจมตีเรือของทางกองทัพ ซึ่งผู้ที่ได้ศึกษาถึงเรื่องการใช้โลมา ในโครงการด้านการทหารของสหรัฐฯนั้น กล่าวว่า มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องจับตัวพวกมันให้ได้โดยเร็ว
ลีโอ เชอริแดน วัย 72 ปี เจ้าหน้าที่สอบสวนงานด้านอุบัติเหตุที่ทำงานให้กับทางรัฐบาลกล่าวว่า เขาได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับหน่วยงานการประมงทางทะเลของรัฐบาล ซึ่งยืนยันว่าโลมาได้หลุดออกไปจริง
“ที่ผมกังวลก็คือ พวกมันได้เรียนรู้ที่จะยิงนักดำน้ำที่สวมชุดเว็ตสูท และทำพฤติกรรมคล้ายผู้ก่อการร้าย และถ้าหากนักดำน้ำหรือนักเล่นวินด์เซิร์ฟถูกเข้าใจผิดว่าเป็นมือระเบิดพลีชีพแล้ว โลมาก็อาจจะยิงลูกดอกอาบยาพิษที่ติดอยู่กับบังเหียนพิเศษ โดยลูกดอกนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้เป้าหมายสลบ เพื่อที่จะนำตัวไปสอบถามได้ในภายหลัง แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากเหยื่อไม่ถูกพบเป็นเวลาหลายชั่วโมง” เชอริแดนกล่าว “โดยปกติ โลมาจะถูกควบคุมผ่านคลื่นสัญญาณที่ถูกส่งไปยังบังเหียนที่อยู่ตรงคอ แต่คำถามก็คือ โลมาเหล่านี้อยู่ในภาวะที่พร้อมหรือไม่ ก่อนที่เฮอริเคนแคทรีนาจะเข้าถล่ม”
อนึ่ง ทางกองทัพเรือได้เริ่มโครงการลับนี้ที่เมืองซานดิเอโก เมื่อปี 1989 ซึ่งโลมาที่มีบังเหียนผูกติดตัวและมีขั้วไฟฟ้าฝังไว้ใต้ผิวหนัง ได้รับการฝึกให้ลาดตระเวน และปกป้องฝูงเรือดำน้ำในอ่าว และประจำเรือรบในทะเล
ทั้งนี้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทางกลุ่มที่เรียกร้องสิทธิของสัตว์ได้ยืนยันว่า การใช้โลมานั้นถูกปิดเป็นความลับมากขึ้น แต่โครงการนี้ได้เริ่มแพร่หลายขึ้น หลังจากที่กลุ่มก่อการร้ายชาวเยเมนได้โจมตีเรือรบยูเอสเอสโคลในวันที่ 12 ตุลาคม 2000 นอกจากนั้น ยังมีการใช้โลมาเพื่อเสาะหากับระเบิด ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือของอิรักแห่งหนึ่งอีกด้วย
