เอเอฟพี - อดีตรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ คอลิน พาวเวลล์ ยอมรับสุนทรพจน์กล่อมยูเอ็น สนับสนุนสงครามอิรัก ทำให้ประวัติการทำงานของตนมี "มลทิน" และว่า เขาไม่เคยเห็นหลักฐานเชื่อมโยงซัดดัม กับเหตุการณ์ 11 กันยาฯ พร้อมทั้งวิจารณ์กรุงวอชิงตัน ล้มเหลวในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเฮอริเคนแคทรีนา
คำพูดดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างให้สัมภาษณ์โทรทัศน์เอบีซีนิวส์ ที่ออกอากาศเมื่อวันศุกร์ (9) โดยพาวเวลล์ยอมรับว่า การกล่าวสุนทรพจน์ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2003 เพื่อเสนอหลักฐานเกี่ยวกับอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงของอิรัก ถือเป็นรอยด่างพร้อยในประวัติการทำงานของตน
"มันคือมลทินในประวัติของผม" พาวเวลล์กล่าวต่อไปว่า "ผมคือตัวแทนของสหรัฐฯ ในการนำเสนอเรื่องนี้ต่อชาวโลก และมันจะเป็นส่วนหนึ่งในประวัติของผมไปตลอด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดจนกระทั่งปัจจุบัน"
ในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนั้น พาวเวลล์สาธยายเหตุผลที่สหรัฐฯ จำเป็นต้องเปิดฉากสงครามโค่นล้มรัฐบาลซัดดัม ฮุสเซน หนึ่งในนั้นคือการนำเสนอภาพถ่ายดาวเทียมรถบรรทุกหลายคันซึ่งอ้างว่า อิรักใช้เป็นห้องทดลองอาวุธชีวภาพเคลื่อนที่ ทว่า หลังกรุงวอชิงตันกรีฑาทัพบุกแบกแดดแล้ว กลับไม่พบอาวุธร้ายเหล่านี้แต่อย่างใด
พาวเวลล์เผยว่า ก่อนวันกล่าวสุนทรพจน์ เขาได้เดินทางไปศึกษารายงานข่าวกรองที่สำนักงานใหญ่ของหน่วยข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) นาน 5 วัน ทว่า รายงานเหล่านั้นส่วนใหญ่กลับเป็นเรื่องเท็จ และไม่มีใครแจ้งให้ตนได้รับทราบ
ถึงกระนั้น อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศผู้นี้ไม่ได้ตำหนิจอร์จ เทเน็ต ผู้อำนวยการซีไอเอในสมัยนั้นว่าเป็นผู้ป้อนข้อมูลดังกล่าว เพียงแต่ชี้ว่า สมาชิกซีไอเอบางคนรู้ดีว่าข้อมูลไม่น่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้ออกมา
นอกจากนั้น พาวเวลล์ยังบอกอีกว่า เขาไม่เคยเห็นหลักฐานที่ชี้ว่ารัฐบาลซัดดัม เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2001 และว่า สหรัฐฯแทบไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินหน้าพัฒนากองทัพอิรักต่อไปหลังสิ้นสุดยุคของซัดดัม
"สิ่งที่เราไม่ได้ทำทันทีหลังสงคราม คือ การกำหนดเจตนารมณ์ให้ทั่วประเทศ พร้อมกับการมีทหารจากกองทัพของเรา และพันธมิตรที่เพียงพอ หรือจัดตั้งกองทัพชาวอิรักขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว" พาวเวลล์กล่าว พร้อมกับแสดงความวิตกถึงความเป็นไปได้ของสงครามกลางเมืองในอิรัก
"เราต้องหาทางให้ชาวสุหนี่เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง คุณไม่สามารถปล่อยให้อิรักกลายเป็นรัฐเล็กๆทางภาคเหนือ รัฐใหญ่ขึ้นมาหน่อยทางภาคใต้ ส่วนภาคกลางไม่มีอะไรเลย" เขาเผย
ขณะเดียวกัน พาวเวลล์ยังพยายามลดกระแสข่าวลือเรื่องความขัดแย้งระหว่างตัวเขา กับรองประธานาธิบดีดิ๊ก เชนีย์ และโดนัลด์ รัมสเฟลด์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ โดยระบุว่า เขามีช่วงเวลาที่ดีระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช สมัยแรก
"บางคนบอกว่าคุณไม่ควรสนับสนุนสงคราม คุณควรขอลาออก แต่ผมก็รู้สึกดีใจที่ซัดดัม ฮุสเซน ถูกกำจัด" อดีตรัฐมนตรีสายพิราบกล่าว
อย่างไรก็ดี พาวเวลล์ได้วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการรับมือภัยพิบัติพายุเฮอริเคนแคทรีนา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "ผมคิดว่าเกิดความล้มเหลวมากมายในทุกระดับทั้งท้องถิ่น มลรัฐ และรัฐบาลกลาง"
"มีคำเตือนมากมายเกินพอเกี่ยวกับอันตรายที่จะเกิดกับเมืองนิวออร์ลีน" เขาเผย พร้อมกับกล่าวตบท้ายว่า แต่ไม่มีใครสนใจนำคำเตือนเหล่านี้มาเตรียมการรับมือที่ดีพอ ซึ่งเขาก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม