xs
xsm
sm
md
lg

มุสลิมอังกฤษ 2 ใน 3 คิดย้ายประเทศหลังเหตุบึ้มลอนดอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การ์เดียน - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของการ์เดียน/ไอซีเอ็มระบุ ชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในอังกฤษคิดจะย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิด หลังได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีถึง 80% ที่เชื่อว่าการร่วมทำสงครามบุกอิรักเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อังกฤษตกเป็นเป้าการก่อการร้าย

ผลสำรวจของการ์เดียน/ไอซีเอ็มสะท้อนความหวาดกลัวของชาวมุสลิมในอังกฤษ หลังเหตุระเบิดกลางเมืองเมื่อวันที่ 7 ก.ค. กระตุ้นให้เกิดทัศนคติทางลบต่อผู้นับถือศาสนาอิสลามในอังกฤษมากขึ้น โดยชาวมุสลิม 1 ใน 5 ที่ให้ข้อมูลบอกว่าพวกเขาหรือสมาชิกครอบครัวได้เผชิญกับการทำร้ายหรือท่าทีไม่เป็นมิตรหลังเกิดเหตุไม่สงบ ขณะที่สถิติจากตำรวจชี้ว่าในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีคดีทำร้ายชาวมุสลิมทั่วประเทศราว 1,200 คดี ไล่มาตั้งแต่การด่าทอไปจนถึงการสังหาร

การสำรวจนี้สุ่มถามชาวอังกฤษที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศทางโทรศัพท์ จำนวน 1,005 คน ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค.ซึ่งการเผยแพร่ผลสำรวจเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่ผู้นำมุสลิมในอังกฤษและเจ้าหน้าที่ตำรวจหารือกัน เพื่อพยายามเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เป็นชาวมุสลิม เพื่อปกป้องผู้นับถือศาสนาอิสลามจากการทำร้ายเนื่องจากอคติ และเพื่อให้มีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต้องสงสัยเป็นการก่อการร้ายจากชาวมุสลิมมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มากขึ้น

63% ของชาวมุสลิมในอังกฤษที่ให้ข้อมูลเปิดเผยว่า พวกเขาเคยคิดถึงอนาคตของตัวเองในประเทศอังกฤษหลังเกิดเหตุระเบิดกลางเมืองลอนดอน โดยคิดว่าจะยังอยู่ในประเทศนี้ต่อไปหรือไม่ เมื่อแยกตามช่วงอายุ กลุ่มชาวมุสลิมอายุ 35 ปีขึ้นไปคิดจะกลับไปใช้ชีวิตที่แผ่นดินเกิดกัน 67% ขณะที่กลุ่มคนอายุน้อยกว่า 35 ปี คิดจะย้ายออกจากอังกฤษ 61%

ทั้งนี้ ในประเทศอังกฤษมีผู้นับถือศาสนาอิสลามอยู่ราว 1.6 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้มีคนที่อายุมากกว่า 18 ปีอยู่ 1.1 ล้านคน หากเทียบสัดส่วนจากผลสำรวจก็เท่ากับว่ามีชาวมุสลิมกว่า 5 แสนคนที่พิจารณาอยู่ว่าจะออกจากอังกฤษดีหรือไม่ ในจำนวนนี้มี 3 ใน 10 ที่เป็นกังวลเกี่ยวกับอนาคตของลูกหลานในประเทศนี้

ชาวมุสลิมเกือบ 8 ใน 10 เชื่อว่าการที่นายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ เข้าร่วมบุกอิรัก เป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่การก่อเหตุระเบิด ขณะที่การสำรวจของการ์เดียนเมื่อต้นเดือนชี้ว่า คนอังกฤษโดยรวมมีความเห็นดังกล่าวเกือบ 2 ใน 3 แต่ผู้นำอังกฤษก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวหลายต่อหลายครั้ง

ชาวมุสลิม 57% เชื่อว่าความล้มเหลวของผู้สอนศาสนาอิสลามและผู้นำประเทศที่ไม่สามารถกำจัดผู้มีแนวคิดรุนแรงแบบสุดโต่งได้มีส่วนทำให้เกิดการโจมตี ขณะที่ 68% ของชาวอังกฤษโดยรวมเห็นว่าปัจจัยนี้มีส่วนกระตุ้นการก่อเหตุ นอกจากนี้ชาวมุสลิมเกือบ 2 ใน 3 เชื่อว่าการเหยียดผิวและอคติที่ผู้คนมีต่อชาวอิสลามเป็นสาเหตุของเหตุสะเทือนขวัญ ขณะที่คนอังกฤษโดยรวมเห็นด้วยกับเรื่องนี้ 57%

แต่เมื่อกล่าวถึงมือระเบิดและผู้บงการ สัดส่วนชาวมุสลิมและชาวอังกฤษโดยรวมที่เชื่อว่าความไม่สงบเกิดขึ้นเพราะคนกลุ่มนี้มีเท่ากัน คือ 80%

ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ชาวมุสลิมไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง โดย 9 ใน 10 ไม่เชื่อเรื่องการใช้ความรุนแรงเพื่อผลักดันแนวคิดทางการเมือง และสัดส่วนเดียวกันกล่าวว่าจะให้ความร่วมมือกับตำรวจในการจัดการกับพวกแนวคิดรุนแรงในชุมชนมุสลิม

ส่วนกลุ่มคน 10% ที่เหลือระบุว่า พวกเขาเห็นด้วยกับการก่อเหตุระเบิดระบบขนส่งมวลชนกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 56 คน และได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน โดยมี 5% ที่เห็นว่าน่าจะมีการโจมตีมากกว่านี้อีก

ครึ่งหนึ่งของชาวมุสลิมคิดว่ายังต้องดำเนินการให้มากกว่าปัจจุบัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีแนวคิดรุนแรงแทรกซึมเข้ามาในชุมชน โดยกว่าครึ่งต้องการให้อังกฤษสั่งห้ามผู้สอนศาสนาที่เป็นชาวต่างชาติเข้าประเทศ แต่ก็มี 38% ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น