ฟังเสียงบรรยายพร้อมชมภาพจุใจกว่า
คลิก Photo Slide ด้านบน
คลิก Photo Slide ด้านบน
หลังพบกันครั้งแรกเมื่อ 35 ปีก่อน ในที่สุดเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และคามิลลา ก็ได้ลงเอยกันเสียที แม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะเปลี่ยนสถานะจากเจ้าชายหนุ่มโสดมาเป็นพระบิดาของเจ้าชายวัยรุ่น 2 พระองค์ ส่วนอีกฝ่ายผ่านการแต่งงานและหย่าร้างมีคำนำหน้าว่านางติดอยู่ พร้อมลูกชายและลูกสาว 2 คน โดยพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างมกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ และนางคามิลลา พาร์กเกอร์ โบว์ลส์ จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 เมษายน 2005 นี้ (ถูกเลื่อนจาำกกำหนดเดิมวันที่ 8 เนื่องจากตรงกับวันพิธีพระศพโป๊ป)
ย้อนไปเมื่อในเดือนมิถุนายน ปี 1970 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงได้รู้จักกับคามิลลา แชนด์ โดยลูเซีย ซานตา อดีตสหายหญิงคนพิเศษของพระองค์ ซึ่งคิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันมากเป็นผู้แนะนำ การพบกันในวันแข่งขันโปโลในพระราชวังวินเซอร์ยังคงตราตรึงในความทรงจำของทั้งสองฝ่าย นอกจากจะทรงหลงใหลในความสวยของคามิลลาแล้ว เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ยังทรงประทับใจในความสดใสร่าเริงของบุตรสาวของนายทหารใหญ่คนนี้ด้วย
นับตั้งแต่ช่วงเวลาดีๆ ที่สนามโปโลสมิธลอว์น ฟิลด์ ในเขตรั้วพระราชวังวินด์เซอร์ คามิลลากลายเป็นพระสหายสนิทที่ข้าราชบริพารในตำหนักของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีโอกาสได้ต้อนรับอยู่เสมอ แม้ในขณะนั้นเธอเองก็กำลังดูใจกับแอนดรูว์ พาร์กเกอร์ โบว์ลส์อยู่ แต่แอนดรูว์ยังชนะใจคามิลลาไม่ได้ทั้งดวง สาวทรงเสน่ห์ที่มีแต่หนุ่มมารุมจีบ จึงยังสบายใจที่จะคบหากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ไปมาหาสู่กันและออกไปเที่ยวนอกเมืองด้วยกัน นอกจากนี้ความชื่นชอบในการล่าสัตว์ยังทำให้ความสัมพันธ์ของคามิลลากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ของทั้งสองต้องชะงักในปี 1971 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงตัดสินพระทัยรับภารกิจในกองทัพเรือแห่งอังกฤษโดยไม่ได้บอกความรู้สึกที่มีต่อคามิลลา ภารกิจในทะเลแคริบเบียนสิ้นสุดลงในระยะเวลา 8 เดือน แต่เมื่อทรงหวนกลับคามิลลาเริ่มรู้สึกลึกซึ้งกับแอนดรูว์และรับหมั้นเขาไปแล้ว และเข้าสู่พิธีวิวาห์ในปี 1973
หลังแต่งงาน คามิลลาใช้ชีวิตแบบหลังบ้านนายทหาร แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเป็นสหายสนิท ครอบครัวพาร์กเกอร์ โบว์ลส์ อยู่ในกลุ่มพระสหายของมกุฎราชกุมาร ซึ่งรวมถึงเจ้าหญิงแอนน์, นิโคลาส โซเมส, แคโรลีน เบนสัน, เอดเวิร์ด แวน คัตเซม และแอนนาเบล พี่สาวของคามิลลา และไซมอน เอลเลียต สามี ไม่ต้องสงสัยว่าสิ่งนี้เองที่ช่วยทำให้มิตรภาพระหว่างเจ้าฟ้าชาร์ลส์และคามิลลายืนยาวมาตลอดทศวรรษ 1970
มกุฎราชกุมารอังกฤษทรงรับเป็นพ่อทูนหัวให้แก่ ทอม ลูกชายคนแรกของคามิลลาและแอนดรูว์ สายสัมพันธ์ใกล้ชิดดังกล่าวทำให้มีการพูดกันว่า สตรีผู้ครองหัวใจเจ้าชายอังกฤษคนนี้เอง เป็นคนบอกให้เจ้าชายชาร์ลส์เลือกเลดี้ไดอานามาเป็นพระชายา
ประมาณต้นทศวรรษ 1980 มีข่าวลือว่าเจ้าชายชาร์ลส์และคามิลลากลับมารื้อฟื้นความรักกันอีกครั้ง ขณะนั้นไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าข่าวดังกล่าวจริงเท็จหรือไม่ แต่ความความสนิทสนมของทั้งคู่สร้างปัญหาให้กับสาวๆ ที่หมายปองเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเลดี้ ไดอานา เจ้าสาวในอนาคตของพระองค์
ยิ่งใกล้ถึงวันอภิเษกสมรสในเดือนกรกฎาคมปี 1981 ไดอานารู้สึกอิจฉาที่คามิลลามีอิทธิพลเหนือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เธอซักไซร้เรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ กระทั่งขู่ว่าจะยกเลิกงานเมื่อรู้ว่าเจ้าชายและคามิลลา ได้แลกของขวัญเล็กๆ น้อยแทนใจแก่กันและกัน ก่อนที่พิธีอภิเษกฯ จะเริ่มขึ้นในโบสถ์เซนต์พอล
หนึ่งในของขวัญเหล่านั้น ได้แก่ สร้อยข้อมือที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มอบให้คามิลลา ซึ่งสลักตัวย่อเอฟและจีไว้ อันหมายถึงชื่อที่ทั้งสองใช้เรียกกัน คือ “เฟรด” และ “เกลดี้”
เจ้าหญิงไดอานาทรงโกรธเคืองอย่างหนักตั้งแต่การฮันนีมูนในทะเลแคริเบียน เมื่อสังเกตเห็นพระสวามีสวมสร้อยข้อมือที่คามิลลามอบให้ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จึงทรงพยายามลดความสัมพันธ์กับคามิลลาลงเพื่อเห็นแก่ชีวิตคู่
อย่างไรก็ตาม ความแตกร้าวเริ่มปรากฏขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในปี 1985 ทั้งสองพระองค์แทบจะไม่สนทนากัน เจ้าหญิงไดอานานั้นประทับอยู่ที่พระราชวังเคนซิงตันในกรุงลอนดอนเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ประทับอยู่ที่พระตำหนักไฮโกรฟ ในแคว้นกลัตเซสเตอร์เชียร์
ช่วงเดียวกันนี้เองที่ความสัมพันธ์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับคามิลลากลับแน่นแฟ้นขึ้น เมื่อเธอเผยว่าได้แยกทางกับแอนดรูว์แล้ว แต่ยังอยู่ด้วยกันเพราะเห็นแก่ลูกเท่านั้น เจ้าชายและคามิลลาพบปะกันบ่อยครั้ง ที่พระตำหนักไฮโกรฟหรือในงานเลี้ยงที่บ้านของพระสหาย
อาจเป็นเพราะสถานภาพที่แต่งงานแล้ว เจ้าหญิงไดอานาจึงทรงคบหาใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ชาย ซึ่งรวมถึงบอดีการ์ดส่วนพระองค์ แบร์รี แมนนาคี, เจมส์ กิลบี ชายสูงวัยชาวเอสโตเนีย และนายทหารเจมส์ ฮิววิตต์
ข่าวเทปลับที่แฉว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงบอกรักกับคามิลลาในปี 1992 ดูจะทำให้ข่าวลือเรื่องสัมพันธ์สวาทของพระสวามีชัดเจนขึ้น เจ้าหญิงไดอานาทรงระบุว่าคามิลลาเป็นผู้ทำลายชีวิตคู่ของพระองค์ ในปีนี้เองที่รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าเจ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอานาทรงแยกทางกัน
จากนั้น ในปี 1994 มกุฎราชกุมารอังกฤษทรงยอมรับกับสาธารณชนอย่างเป็นทางการว่ามีความสัมพันธ์กับนางคามิลลา ขณะที่ผู้คนพากันแสดงความเห็นใจเจ้าหญิงไดอานา ในปี 1995 คามิลลาหย่าขาดจากแอนดรูว์ และในปีเดียวกันเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ก็ทรงหย่ากับเจ้าหญิงไดอานา โดยการหย่าอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นในปี 1996
สตรีผู้ผ่านการหย่าร้างมาแล้วอย่างคามิลลาถูกสาธารณชนประณามอย่างหนักว่าเป็นผู้นำความขมขื่นมาสู่ราชวงศ์อังกฤษ เธอจึงต้องงระมัดระวังในการปรากฏตัวมาก ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ถูกมองว่าทำให้ราชวงศ์วินเซอร์เสื่อมเสีย
หลังการอย่าร้าง เจ้าหญิงไดอานาทรงมุ่งสู่การทำงานด้านสาธารณกุศล ท่ามกลางข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของพระองค์กับคนใกล้ชิดออกมาเป็นระยะ ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีสเมื่อปี 1997 ซึ่งจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายชาร์ลส์และคามิลลาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การจากไปของเจ้าหญิงไดอานานับเป็นจุดเปลี่ยนของความรักระหว่างบุคคลทั้งสอง จากที่เคยต้องระแวดระวังในการปรากฏตัวต่อสาธารณชน คามิลลาเริ่มปรากฏตัวเคียงข้างมกุฎราชกุมารอังกฤษ จนผู้คนเริ่มชินตากับภาพที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงควงเธออกงานสังคมต่างๆ ถึงขั้นแลกจูบกันอย่างปกติเมื่อพบกัน
มาถึงวันนี้ แม้พิธีอภิเษกสมรสครั้งที่ 2 ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ จะไม่ถูกกล่าวขวัญถึงในแง่ของเทพนิยายชวนฝัน แต่ก็เป็นที่ยอมรับแล้วว่าครั้งนี้จะทรงได้อภิเษกกับ “รักแท้” ผู้เผชิญเรื่องวุ่นวายต่างๆ ร่วมกับพระองค์มานานกว่า 30 ปี