รอยเตอร์ – ทางการอินโดนีเซียเตรียมยืดเวลาให้เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมและกองทัพของต่างชาติอยู่ในอาเจะห์ได้อีก 1 – 2 เดือน หลังจากที่กำหนดเส้นตายไว้ก่อนหน้านี้ให้กองกำลังและองค์กรต่างๆออกจากพื้นที่ดังกล่าวภายในวันที่ 26 มีนาคมนี้
อัลวี ชีฮับรัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการสังคมของอินโดนีเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่ากองกำลังต่างประเทศและองค์กรการกุศลที่เข้ามาช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมสามารถอยู่ในจังหวัดอาเจะห์ได้อีกในเบื้องต้น 30 – 60 วัน ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวอาจยืดออกไปได้อีกหากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ในจังหวัดอาเจะห์มีผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ถล่มเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมถึงกว่า 200,000 คน อีกทั้งยังมีคนไร้บ้านอีกกว่า 400,000 คน ซึ่งในขณะนี้ทางการเองก็ยังไม่สามารถจัดที่พักชั่วคราวให้กับผู้รอดชีวิตได้อย่างเพียงพอ ทำให้ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ต้องอาศัยอยู่ในเต็นท์ชั่วคราว
รัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการสังคมระบุสาเหตุที่ยืดเวลาออกไปก็เพื่อให้ทางรัฐบาลได้พิจารณาว่าองค์กรใดมีความสำคัญและจำเป็นจะอนุญาตให้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้มีองค์กรการกุศลและองค์กรระหว่างประเทศกว่า 160 องค์กรให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในจังหวัดอาเจะห์
หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ฉบับวันนี้ (18) ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของชีฮับที่ระบุว่ากองกำลังต่างชาติจะยังอยู่ในอาเจะห์ได้ต่อไปและจะไม่ถูกขอให้ออกจากประเทศนอกจากวีซ่าของทหารจะหมดอายุ ซึ่งเขาเองบอกว่าหากทหารคนใดวีซ่าหมดอายุก็สามารถต่อใหม่ได้ทันที ในปัจจุบันมีทหารของสหรัฐฯ,ออสเตรเลีย,ญี่ปุ่น เยอรมนีและจากอีกหลายประเทศที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม
อย่างไรก็ตามเมื่อเช้าวันนี้มีรายงานว่าได้เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 6.1 ริกเตอร์ในจังหวัดอาเจะห์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างออกไปจากชายฝั่งทางด้านตะวันตกประมาณ 93 กิโลเมตรทำให้ประชาชนจำนวนมากออกมาตามท้องถนนด้วยความตื่นกลัวว่าจะเกิดเหตุคลื่นยักษ์ขึ้นอีก อย่างไรก็ตามเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและความเสียหาย
