xs
xsm
sm
md
lg

ลีกวนยูจวกอังกฤษไม่ใช่แดนผู้ดีแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/รอยเตอร์-ลีกวนยู รัฐบุรุษอาวุโสของสิงคโปร์ระบุ อังกฤษที่เคยเป็นเจ้าอาณานิคมของสิงหปุระมาก่อน เวลานี้ตกต่ำจนไม่สามารถใช้เป็นมาตรฐานทางสังคมได้อีกแล้ว นอกจากนั้นเขายังเร่งรัดให้ดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรครัฐบาล แม้คนเหล่านี้จะมีแนวคิดคัดค้านนโยบายของพรรค

ลีซึ่งนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์นับแต่ก่อตั้งประเทศในปี 1965 จนกระทั่งถึงปี 1990 อีกทั้งเป็นบิดาของลีเซียนลุง นายกฯคนปัจจุบัน และยังคงมีตำแหน่งเป็นอันดับ 3 ในรัฐบาลชุดนี้ด้วย บอกว่า ตอนที่เขาไปศึกษาในอังกฤษช่วงทศวรรษ 1940 นั้น ประชาชนอังกฤษมีวัฒนธรรม สุภาพ และมีมารยาท มักช่วยเหลือคนชราและคนอ่อนแอเมื่ออยู่บนรถเมล์หรือรถไฟ "แต่เวลานี้พื้นผิวของสังคมอังกฤษหยาบกร้านขึ้น ความสุภาพเอื้อเฟื้อก็ไม่ค่อยปรากฏให้เห็น"

รัฐบุรุษอาวุโสสิงคโปร์ยกตัวอย่างว่า ส.ส.อังกฤษไม่มีท่าทีที่สุภาพต่อกันอีกแล้ว โดยเอาแต่ตะโกนใส่อีกฝ่ายหนึ่งเมื่ออยู่ในสภา ส่วนในสังคมวงกว้างออกมา ขนบประเพณีทางสังคมและด้านเพศก็ไม่เรียบร้อยและถูกต้องเหมาะสมเหมือนก่อน

ลีบอกว่า สื่อมวลชนและนักการเมืองอังกฤษ "เป็นพวกต่อต้านชนชั้นนำ มุ่งป้ายสีความเป็นเลิศ ต้องการถล่มคนอื่นๆ ให้ตกต่ำลงสู่ความเป็นสามัญธรรมดาอย่างต่ำที่สุด ต้องการหลีกหนีใครก็ตามที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่า"

อดีตนายกฯสิงคโปร์ยังเตือนมหาวิทยาลัยชั้นนำของอังกฤษ อาทิ เคมบริดจ์ ซึ่งเขาเป็นศิษย์เก่า ว่ากำลังถูกบีบให้ยอมรับนักศึกษาจากนักเรียนโรงเรียนรัฐที่ไม่ใช่พวกระดับท็อป ขณะที่นักเรียนจากพับลิกสคูลเยี่ยมๆ กลับเสียเปรียบไม่อาจเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเหล่านี้ได้ "สิงคโปร์จะต้องไม่เดินไปในเส้นทางเช่นนี้" เขาบอก

ลีพูดเรื่องนี้ในระหว่างกล่าวปราศรัยเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของพรรคพีเพิลส์ แอคชั่น ปาร์ตี้ (พีเอพี) อันเป็นพรรคที่เขาก่อตั้งขึ้น และเป็นพรรคปกครองประเทศสิงคโปร์มาโดยตลอด

ในเรื่องเกี่ยวกับพรรค เขาย้ำว่ากุญแจที่ทำให้พีเอพีมีอายุยืนยาวคือ การสามารถชุบชีวิตตัวเองขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการดึงดูดคนหนุ่มสาวที่มีความสามารถ ความซื่อสัตย์ และพลังงานสูงให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค โดยไม่สนใจว่าคนเหล่านี้มีทัศนะหรือปรัชญาทางการเมืองอย่างใด ขอให้เป็นผู้นิยมสิงคโปร์ก็พอแล้ว

เขาบอกว่า การรับคนหนุ่มสาวซึ่งไม่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเข้ามา แล้วทำให้เกิดการโต้แย้งด้านนโยบายขึ้นในพรรคนั้นเป็นเรื่องดี เพราะหากไม่ยอมให้โต้แย้งกันแล้ว มันก็จะปรากฏขึ้นเป็นการแก่งแย่งชิงดีกันภายในพรรค

ลีกล่าวด้วยว่า พีเอพีควรต้องทำให้การโต้แย้งกันในเรื่องจะเลือกใช้นโยบายอย่างไร ดำรงอยู่ภายในพรรคของตน ดีกว่าจะปล่อยให้กลายเป็นการโต้แย้งกันกับพรรคอื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น