รอยเตอร์ – วันนี้(21) รัฐบาลผู้ดีตกลงที่จะเคลื่อนกองกำลังอังกฤษที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิรักขึ้นไปประชิดกรุงแบกแดด ตามคำร้องขอของกองทัพสหรัฐฯ เพื่อเปิดทางให้ทหารสหรัฐฯที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้เคลื่อนกำลังพลไปปราบปรามกลุ่มกบฏที่อยู่ในเมืองอื่นๆของอิรัก ทั้งนี้ก็เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้งในปีหน้า
เจฟฟ์ ฮูน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอังกฤษกล่าวว่า จะมีการเคลื่อนกองกำลังอังกฤษจำนวน 850 คน จากเมืองบัสเราะห์ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิรักขึ้นมายังบริเวณพื้นที่อันตรายใกล้กรุงแบกแดดเป็นเวลาหลายสัปดาห์แต่คงไม่กี่เดือน ทั้งนี้ก็เพื่อแทนที่กองกำลังสหรัฐฯที่จะเคลื่อนพลไปปราบปรามกลุ่มกบฏที่อยู่ตามเมืองต่างๆอย่างเช่น เมืองฟัลลูญะห์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ฮูนยังมิได้ระบุชัดเจนว่าการเคลื่อนกำลังพลครั้งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เขากล่าวว่าทหารทั้งหมดจะยังคงขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการของกองทัพอังกฤษมิใช่อเมริกัน
“การแปรทัพครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับกระบวนการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในอิรักที่จะเกิดขึ้นในเดือนมรกาคมนี้” ฮูนกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ หัวหน้ากองทัพสหรัฐฯ ขอให้อังกฤษเคลื่อนกองกำลังมาบริเวณใกล้กรุงแบกแดดเพื่อเปิดโอกาสให้กองกำลังสหรัฐฯ ไปปราบปรามกลุ่มกบฏเช่นในเมืองฟัลลูญะห์ก่อนที่มีการเลือกตั้ง
“เราแบ่งปันเป้าหมายร่วมกันในการสร้างเสถียรภาพและความปลอดภัยในอิรัก ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ชาย หญิง หรือเด็กๆที่อยู่ในเมืองฟัลลูญะห์จะต้องรู้สึกว่าปลอดภัยจากขบวนการก่อการร้ายต่างชาติ” ฮูนกล่าว
ตั้งแต่สงครามอิรักเริ่มขึ้น ทหารอังกฤษได้รับมอบหมายให้ดูแลความเรียบร้อยรอบเมืองบัสเราะห์ ซึ่งมีทหารเสียชีวิตทั้งสิ้น 68 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับทหารสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,000 รายก็นับว่าน้อยมาก
นักการเมืองในพรรคแรงงานของนายกรัฐมนตรีอังกฤษต่างพากันตื่นตระหนกกับการตัดสินใจเคลื่อนกองกำลังอังกฤษเข้าไปยังพื้นที่ที่มีอันตรายสูงเช่นนี้ ทั้งนี้ หากอัตราการบาดเจ็บล้มตายของกองกำลังอังกฤษเพิ่มขึ้น รัฐบาลอาจจะต้องเผชิญหน้ากับกระแสการต่อต้านจากประชาชนชาวผู้ดีเพิ่มขึ้นด้วย