เอเอฟพี/บีบีซีนิวส์ - นายกรัฐมนตรีแกรฮาร์ด ชโรเดอร์ของเยอรมนี กล่าวสดุดีนายทหารชาวเยอรมันสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พยายามลอบสังหารอดอล์ฟ อิตเลอร์ ผู้นำนาซี ในโอกาสครบรอบ 60 ปีของวีรกรรมอันกล้าหาญแม้จะกระทำการได้ไม่สำเร็จ โดยระบุว่าพวกเขาเป็นแบบอย่างที่ดีของชาวเยอรมันทุกคน
ชโรเดอร์กล่าววานนี้ (19) ว่า "วีรกรรมเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 1944 แสดงให้เห็นว่ายังมีชาวเยอรมนีในอีกรูปแบบ คือเยอรมนีที่ดีและที่เป็นประชาธิปไตยหลงเหลืออยู่ในขณะนั้นด้วย"
เมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม เมื่อ 60 ปีก่อน เคลาส์ ฟอน สตาฟเฟนเบิร์ก วางแผนสังหารฮิตเลอร์ด้วยการซ่อนระเบิดไว้ในกระเป๋าเอกสาร ระหว่างการประชุมร่วมกับฮิตเลอร์ที่กองบัญชาการนาซีในปรัสเซียตะวันออก หรือประเทศโปแลนด์ในปัจจุบัน แต่โชคร้ายที่มีเจ้าหน้าที่ในห้องประชุมย้ายกระเป๋าเอกสารออกห่างจากตัวฮิตเลอร์ไปไว้ที่อีกมุมหนึ่งของโต๊ะประชุม ส่งผลให้แรงระเบิดเพียงแต่ทำให้ฮิตเลอร์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
สตาฟเฟนเบิร์ก เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพเยอรมันซึ่งได้รับความไว้วางใจจากฮิตเลอร์ และได้เข้าร่วมการประชุมเป็นประจำ แต่หลังเกิดเหตุเขากับผู้ร่วมก่อการอีก 3 คน ซึ่งเดินทางไปเบอร์ลินรอฟังข่าวฮิตเลอร์เสียชีวิตเพื่อเตรียมก่อรัฐประหาร ถูกจับและถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าในคืนวันเดียวกัน ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 12 คนถูกทรมานให้ตายอย่างช้า ๆ
ในวันนี้นายกรัฐมนตรีชโรเดอร์ และประธานาธิบดีฮอร์สต์ เคอห์เลอร์ เดินทางไปร่วมพิธีรำลึกวีรกรรมของสตาฟเฟนเบิร์กในสถานที่ที่เขาถูกประหารที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของกระทรวงสงครามที่กรุงเบอร์ลิน ขณะที่สื่อเยอรมันร่วมรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยการเผยแพร่สารคดีทางโทรทัศน์ และจัดฉายภาพยนตร์รวมทั้งประชาสัมพันธ์หนังสือที่เกี่ยวข้อง
คณะทำงานของสตาฟเฟนเบิร์กได้รับยกย่องจากชาวเยอรมันจำนวนมากให้เป็นวีรบุรุษ ที่พยายามปลดปล่อยเยอรมนีให้หลุดพ้นจากการปกครองของนาซี อย่างไรก็ตามนักประวัติศาสตร์หลายคนระบุว่า พวกเขาทำลายโอกาสที่จะกำจัดฮิตเลอร์ ด้วยข้อบกพร่องหลายๆ อย่าง และการไม่ตระเตรียมการให้รอบคอบรัดกุม อย่างไรก็ตามทุกคนยอมรับว่าความพยายามครั้งนั้น เป็นครั้งที่เกือบจะปลิดชีพฮิตเลอร์ได้มากที่สุด และความล้มเหลวที่เกิดขึ้นถือเป็นโศกนาฏกรรมสำคัญเหตุการณ์หนึ่งในศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว
นับตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 1944 จนสงครามสิ้นสุดในยุโรปเมื่อเดือนพฤษภาคม 1945 นาซีสั่งกำจัดประชาชนในค่ายกักกันอย่างต่อเนื่อง ประมาณกันว่ามีชาวเยอรมัน 4 ล้านคน ทหารโซเวียต 1.5 ล้านคน และทหารพันธมิตรกว่า 1 แสนคนต้องเสียชีวิต