เอเอฟพี-รายงานประจำปีด้านกลาโหมของรัฐบาลญี่ปุ่นฉบับล่าสุดระบุ แดนอาทิตย์อุทัยต้องปรับปรุงประสิทธิภาพกองทัพบก อากาศ และเรือ โดยให้อยู่ภายใต้กองบัญชาการเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อรับมือกับ "ภัยคุกคามใหม่ๆ" ตลอดจนการที่ประเทศเพื่อนบ้านต่างกำลังเพิ่มงบประมาณรายจ่ายทางทหาร
รายงานฉบับนี้ ซึ่งจัดทำโดย ทบวงการป้องกันประเทศ หรืออันที่จริงก็คือกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น บอกว่า แดนอาทิตย์อุทัยต้องเตรียมพร้อม ให้มีกำลังทหารที่คล่องตัวยิ่งขึ้น แต่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยลง ทั้งเพื่อหยุดยั้งผู้ที่อาจจะเข้ามารุกราน และทั้งเพื่อขยายบทบาทของญี่ปุ่นในต่างแดน
นอกจากนั้น กองกำลังป้องกันตนเอง (เอสดีเอฟ) หรือก็คือกองทัพของญี่ปุ่น ยังจำเป็นต้องจัดตั้งกองบัญชาการร่วมขึ้นมา เพื่อต่อเชื่อมหน่วยต่างๆ ของเอสดีเอฟได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้สามารถปฏิบัติภารกิจได้ด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รายงานซึ่งนำออกเผยแพร่วันนี้(6)ระบุ
การมีกองบัญชาการที่เป็นเอกภาพเพียงแห่งเดียว และอยู่ภายใต้ผู้บัญชาการเพียงคนเดียวเช่นนี้ รายงานบอกว่าจะทำให้เอสดีเอฟสามารถแสดงบทบาทอันหลากหลายได้อย่างฉับไว ดังเช่น การส่งทหาร 550 คนไปช่วยงานฟื้นฟูบูรณะอิรัก
สำหรับการจัดวางกำลังในปัจจุบัน ซึ่งมุ่งเพื่อต่อต้านการรุกรานโดยกองกำลังทางบก เรือดำน้ำ และเครื่องบินนั้น รายงานกล่าวว่า มีปัญหาในแง่ของความรวดเร็วและจังหวะเวลา อีกทั้งไม่อาจจะรับมือกับ "ภัยคุกคามใหม่ๆ" ของการก่อการร้าย, ขีปนาวุธนิวเคลียร์, ตลอดจนการไปปฏิบัติภารกิจเพื่อสันติภาพในต่างแดน
โคคิชิ โทมิตะ กรรมการสภาทบวงป้องกันประเทศ กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวรายงานประจำปีฉบับนี้ว่า ถึงแม้งบกลาโหมประจำปีงบประมาณนี้ (เมย.04 - มีค.05) จะลดลงจากปีก่อน 1.0% เหลือ 4.9 ล้านล้านเยน (45,400 ล้านดอลลาร์) แต่ก็ไม่ได้แปลว่าญี่ปุ่นจะลดความสามารถทางการทหารของตัวเองลง
รายงานฉบับนี้ นอกจากพูดถึงจุดที่อาจเป็นปัญหา อาทิ เกาหลีเหนือ, ช่องแคบไต้หวัน, ตลอดจนกรณีพิพาททางดินแดนระหว่างญี่ปุ่นกับรัสเซีย และญี่ปุ่นกับจีนแล้ว ยังกล่าวเตือนถึงการเพิ่มงบประมาณกลาโหมของหลายประเทศในภูมิภาคแถบนี้ด้วย
ทั้งนี้ รายงานชี้ว่า จีนเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านทหารในงบประมาณปี 2004 ถึง 11.6% จนอยู่ในระดับ 25,400 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รัสเซียก็เพิ่ม 16.2% เป็น 14,400 ล้านดอลลาร์
งบกลาโหมของญี่ปุ่นในปีงบประมาณปัจจุบันอยู่ในอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ กับ อังกฤษเท่านั้น แต่รายงานบอกว่า ตัวเลขงบทางทหารซึ่งจีนบอกออกมา อันที่จริงน่าจะเป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ยังไม่ใช่ตัวเลขทั้งหมดจริงๆ